tag:blogger.com,1999:blog-13309254563248293912024-03-14T11:52:28.613+07:00World Boxing Champions of Thailandรวมประวัติของแชมป์โลกมวยสากลอาชีพชาวไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันUnknownnoreply@blogger.comBlogger59125tag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-7198550035520000312009-01-29T13:36:00.007+07:002009-06-28T15:26:08.052+07:00น้องหมวย ก่อเกียรติยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/nongmuay.jpg" width="225" border="2" /><span style="color:#0000ff;"><strong><br /><br /></strong></span><span style="font-family:Arial;"><strong><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: <span style="color:#000000;">น้องหมวย ก่อเกียรติยิม</span></span></span><br /><br /><span lang="en-us"></span><span style="color:#0000ff;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></strong><strong><span lang="th" style="color:#000000;">กาญจนา ทุ่งไธสง<br /><br /></span><span lang="en-us"></span></strong><span style="color:#0000ff;"><strong>วันเดือนปีเกิด</strong><span lang="en-us"><strong>: </strong><span style="color:#000000;"><strong>N/A<br /></strong></span></span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><strong>ภูมิลำเนา<span lang="en-us">: </span></strong></span><span lang="th" style="color:#000000;"><strong>ปากช่อง, นครราชสีมา<br /><br /></strong></span><span lang="en-us"></span><strong><span style="color:#0000ff;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span> 8<span style="color:#000000;">-0-0</span><span style="color:#000000;"><span lang="en-us">;0</span><span lang="en-us">KO</span></span></strong><strong><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /><br /></span></span><span style="color:#0000ff;">เกียรติยศ</span></strong><span lang="en-us"><strong><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></strong></span><span style="color:#000000;"><strong>แชมป์ไลต์ฟลายเวต PABA's Women (2551-2552)<br />แชมปไลต์ฟลายเวต WBC Female (2552-ปัจจุบัน)</strong></span></span></p><br /><p align="justify"><span lang="th" style="color:#000000;"><br />น้องหมวย เริ่มหัดมวยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ กับ พ.จ.อ. บุญเหลือ นนท์ทิจันทร์ โดยเริ่มจากมวยไทยก่อน จากนั้นจึงก้าวขึ้นมาชกมวยสากลสมัครเล่นในสังกัดสโมสรราชนาวี จนกระทั่งได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ในพิกัด 48 กิโลกรัมหญิง และสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ<br /><br />หลังจากนั้นกาญจนาก็ก้าวขึ้นเทิร์นโปรชกมวยสากลอาชีพ ภายใต้ชื่อของ น้องหมวย ศิษย์ครูเหลือ โดยได้เข้าร่วมการแข่งขัน "ศึกมวยรอบหญิงนวมทอง ปูนอินทรี มุ่งสู่แชมป์โลก 112 ปอนด์ ครั้งที่ 1" ที่จัดโดย "ก่อเกียรติ กรุ๊ป" และน้องหมวยก็ใช้ลีลาและเชิงชกแบบมวยสมัครเล่น ดักต่อยทำคะแนนเอาชนะคู่ชกคนแล้วคนเล่า อย่าง น้อยกล้วย ส.เพ็ญประภา, เชือดนิ่มนิ่ม ป.ปัญญา, สะเก็ดดาว เกียรติถาวร (ส.เพ็ญประภา) ในรอบแรกๆ ก่อนที่จะเข้าไปหักด่านกับนักชกมากประสบการณ์อย่าง จอมยุทธหญิง เกียรติ น.ว. และน้องหมวยก็เอาชนะคะแนนไปได้อีกครั้ง ทะลุเข้าชิงชนะเลิศกับ โอ๋เอ๋ ลูกแคราย ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งน้องหมวยก็อาศัยเชิงชกที่เหนือกว่า ทำคะแนนเข้าป้ายคว้าแชมป์มวยรอบหญิงฯ รุ่น 112 ปอนด์มาครองได้สำเร็จ และก็ได้เข้ามาเป็นมวยสร้างของ "ก่อเกียรติ กรุ๊ป" อย่างเต็มตัว<br /><br />หลังจากนั้นไม่นาน ต้นสังกัดก็ตัดสินใจส่งเธอขึ้นชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต PABA's Women ที่ว่าง กับสาวฟิลิปปินส์ จูเจียท นากว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2551 ที่จังหวัดนครราชสีมา บ้านเกิดของเธอเอง และเธอก็เอาชนะคะแนนสาวตากาล๊อกในกำหนด 10 ยก คว้าแชมป์ PABA มาครองได้เป็นเส้นแรก และนับเป็นแชมป์หญิงคนแรกขงสถาบัน PABA ในเมืองไทยอีกด้วย<br /><br />อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้รับโอกาสทองจากต้นสังกัดอีกครั้ง เมื่อ แซมซั่น ส.สิริพร แชทป์รุ่น 108 ปอนด์ของ WBC Female นั้นมีปัญหาส่วนตัวจนไม่สามารถขึ้นป้องกันตำแหน่งได้ตามกำหนดถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทำให้ทาง WBC ตัดสินใจยกระดับให้แซมซั่นขึ้นเป็น "แชมป์โลกเกียรติคุณ" ของรุ่นนี้ และให้แชมป์ตัวจริงนั้นว่างลง ทำให้ทาง "ก่อเกียรติ กรุ๊ป"ได้โอกาสส่งน้องหมวยขึ้นชิงแชมป์เส้นนี้ในทันที โดยมีทางสาวเกาหลีใต้วัย 17 ปี อย่าง แดน บิ คิม เป็นคู่ชิงแชมป์โลกที่ว่าง เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2552<br /><br />ผลการชกปรากฏว่า น้องหมวยเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างขาดลอย เพราะใช้จังหวะ 2 ทำคะแนนได้ค่อนข้างดี และกรรมการยังตัดคะแนนสาวเกาหลีไปถึง 5 แต้ม เพราะก้มต่ำตลอดและต่อยหลังจากกรรมการสั่งแยก ทำให้น้องหมวยกลายเป็นแชมป์โลกมวยหญิงคนที่ 3 ของประเทศไทย<br /><br /></span><span lang="th" style="color:#000000;">(ต้นฉบับภาพประกอบจาก "ก่อเกียรติ กรุ๊ป" โดย พิสิษฐ์ "สิน" เจือจันทร์)</span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-60212462516382469212009-01-07T12:34:00.016+07:002009-01-07T14:48:22.323+07:00เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/denkaosaen.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><b><br /><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: <span style="color:#000000;">เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม</span></span></span><br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-size:100%;color:#0000ff;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span><span lang="th" style="font-size:100%;color:#000000;">สุเทพ หวังมุ๊<br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span> 23<span style="color:#000000;"><span lang="th"> สิงหาคม</span> 2519</span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span><br /></span><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">: </span></span><span lang="th" style="color:#000000;">สมุย, สุราษฎร์ธานี </span><br /></span></b><span lang="en-us"><b><br /></b></span><span style="font-size:100%;"><b><span style="color:#0000ff;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span> <span style="color:#000000;"><span lang="th">46</span>-1-</span></b><span lang="th" style="color:#000000;"><b>1</b></span></span><b><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us">; 20</span><span lang="en-us">KO</span></span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span><br /></span><span style="font-size:100%;color:#0000ff;">เกียรติยศ</span><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ฟลายเวต PABA (2539-2545, 2547-2550)<br />แชมปฟลายเวตเฉพาะกาล PABA (2546-2547, 2551)<br />แชมป์ฟลายเวต WBC Asia (ABCO เดิม) (2551)<br /><span lang="th">แชมป์ฟลายเวต WBA</span> (<span lang="th">2551-ปัจจุบัน</span>)</span></span></b></span></p><p><strong><span style="font-family:Arial;"></span></strong></p><span style="color:#000000;"><span lang="th"><p align="justify"><br /></span></span><span lang="th" style="color:#000000;">เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม เป็นชาวไทยมุสลิม มีชื่อจริงว่า นายสุเทพ หวังมุ๊ เพื่อนบ้านเรียกกันติดปากว่า "แวฮามะ" เกิดเมื่อ 23 ส.ค. 2519 ปัจจุบันอายุ 32 ปี เป็นลูกคนที่ 2 จากจำนวน 7 คน ของคุณพ่ออูเซ็ง คุณแม่ยาเราะห์ เกิดที่สงขลาบ้านเกิดของพ่อ แต่มาโตที่เกาะสมุยถิ่นเกิดของแม่<br /><br />เจ้าตัวเปิดเผยว่าตอนเด็กๆดื้อมาก เรื่องชกมวยนั้นความจริงไม่เคยคิดฝันมาก่อนหรอก แต่พออายุได้ 12 ปี พ่อเห็นว่าชีวิตชอบโลดโผนแก่นแก้วนัก เลยพาไปฝากค่ายมวย "เก้าวิชิต"ของ อำนวย แซ่วุ่น หัวหน้าคณะ ซึ่งปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ แต่เลิกทำมวยไปนานแล้ว<br /><br />มีพี่น้องกันมากถึง 7 คน แต่มีเพียงเจ้ามะคนเดียวเท่านั้น ที่ชะตาชีวิตหันเหให้มาเป็นนักมวยอาชีพ ใช้ชื่อ "เด่นเก้าแสน เก้าวิชิต" ขึ้นชกแถวบ้านเกิดแดนปักษ์ใต้ 70 กว่าครั้ง ได้รับการชูมืออย่างผู้ชนะถึง 52 ครั้ง<br /><br />ปี 2535 อายุได้ 16 ปี เข้ามาอาละวาดในเมืองกรุง ด้วยการโอบอุ้มของ "ใหม่ เมืองคอน" หรือ ชูโชค (เดิมชื่อ สมคิด) ชูแก้วรุ่งโรจน์ เจ้าของฉายา "จอมวันทาสิบทิศ" ผู้โอบอ้อมอารี </span></p><p align="justify"><span lang="th" style="color:#000000;">ขึ้นสังเวียนมาตรฐานทั้งราชดำเนิน-ลุมพินี พบกับมวยดีมีระดับ เคยชนะน็อกและชนะคะแนน พานเพชร เมืองสุรินทร์, ชนะน็อก พงษ์ศักดิ์ พ.รื่นฤดี ยก 3 ต่อยมวยรอบฉลามของ ทรงชัย รัตนสุบรรณ แต่โชคไม่ดีแพ้ตกรอบแรกไปเสียก่อน ค่าตัวประมาณ 5-6 หมื่นบาท แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์มวยไทยเลยสักเส้น<br /><br />ยุคนั้น รุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, อาคม เฉ่งไล่ โด่งดังทั้งในเชิงมวยไทย และมวยสากลสมัครเล่น แถมยังเป็นยุคทอง ที่แชมป์โลกมวยสากลอาชีพเมืองไทยกำลังบูม หลังจาก แสน ส.เพลินจิต, หยกไทย ศิษย์ อ. และพิชิต ช.ศิริวัฒน์ กำลังครองแชมป์โลก WBA ประกาศศักดากันเป็นว่าเล่น<br /><br />ใหม่ เมืองคอน อยากมีแชมป์มวยสากลประดับค่ายบ้าง จึงเรียนลัดจับเด่นเก้าแสน ขึ้นชิงแชมป์ฟลายเวต PABA ที่ว่างในครั้งแรกทันทีเลย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ลูกพี่ผิดหวัง คว้าแชมป์มาครองในการสวมรองเท้าชกอาชีพไฟต์แรก ชนะคะแนน เมลวิน มากราโม่ นักชกฟิลิปปินส์ตระกูล "หัวกะโหลกไขว้" เมื่อ 28 พ.ย. 2539 ที่จังหวัดสงขลา<br /><br />แวฮามะรำลึกถึงการชกสากลอาชีพครั้งแรกๆ ว่า "ที่จริง ไม่อยากชกมวยสากลด้วยซ้ำไป เพราะยังไม่เป็นมวยเท่าไหร่ ต่อยมวยสากลต้องซ้อมหนัก แล้วก็เจ็บตัวมาก เพราะยังปัดป้อง ออกหมัดเก้งก้างอยู่"<br /><br />"ยิ่งเจอกับมวยทรหดอย่างมากราโม่ด้วยแล้ว ทำเอาผมบอบช้ำไม่น้อยเลยทีเดียว ผมมาเริ่มเป็นมวยสากลมากขึ้น ในช่วงที่ได้ ครูปุ๋ย อ.สุเทพ ณ นคร เข้ามาดูแล จากนั้นเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น ก็ทำให้เราต่อยได้ดีขึ้นรู้จักการป้องกันตัว ทั้งรุกและรับ"<br /><br />จากนั้นมา เจ้ามะก็สามารถป้องกันแชมป์พาบาไว้ได้อย่างยาวนานถึง 18 ครั้ง ก่อนจะสละเข็มขัดไป เพื่อชิงแชมป์โลก WBA ครั้งแรก แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเป็นฝ่ายพ่าย TKO อีริก โมเรล แชมป์โลกชาวเปอร์โตริโก ในยกที่ 11 ที่ฟลอริดา สหรัฐไปเมื่อ 12 ต.ค. 2545<br /><br />อย่างไรก็ตามเด่นเก้าแสนยังไม่ท้อ และได้โอกาสกลับมาชิงแชมป์พาบาเส้นเดิม รอบนี้ป้องกันแชมป์สมัยที่สองไว้ได้อีกถึง 14 ครั้ง แต่ในระหว่างนั้นชะตาชีวิตเกิดผกผันครั้งใหญ่ขึ้นอีก เมื่อลูกพี่ใหญ่ ใหม่ เมืองคอน เสียชีวิตลงด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ค่ายเกียรติบ้านช่อง ต้องปิดตัวลง เจ๊หน่อย นางภารดี ภรรยาม่ายจำเป็นต้องขาย เด่นเก้าแสนให้กับ เสี่ยนริส สิงหวังชา รับช่วงดูแลเพื่อสร้างสรรค์สู่บัลลังก์โลกต่อไป ในวงเงินค่าตัว 1.6 ล้านบาท<br /><br />เจ้ามะเองได้ส่วนแบ่งครั้งนั้นเป็นเงิน 3 แสนบาท พร้อมกับมี ดุรงค์ อพอลโล่ นักมวยเก่า หรือ สวัสดี วรสิงห์ ที่เจ้ามะชอบเรียกว่า "ดันดี ยูไนเต็ด" เข้ามาเป็นเทรนเนอร์คู่บารมี คอยดูแลกันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน<br /><br />เด่นเก้าแสนรั้งตำแหน่งรองแชมป์โลกเบอร์ 1 ในรุ่น 112 ปอนด์ของ WBA ต่อเนื่องมานานแบบมาราธอนเกือบสามปี จึงสบโอกาสสละแชมป์พาบา ขึ้นไปชิงแชมป์โลก WBA เส้นเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ ทำได้แค่เสมอ ทาเคฟูมิ ซากาตะ เจ้าของตำแหน่งชาวซามูไร อย่างน่าเจ็บใจ ในการชกที่เมืองไซอิตามะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2550<br /><br />เหตุก็เพราะยกแรก เจ้ามะได้จังหวะจ้วงหมัดขวาส่ง แชมป์โลกร่วงลงไปกองนับแปดแล้ว แต่ยกสี่ เกิดหัวแม่โป้งซ้ายหลุดขึ้นมา จึงต้องประคองตัวชกมือเดียวไปตลอดจนครบ 12 ยก แถมยกสุดท้ายยังถูกกรมการผู้ห้ามบนเวทีตัดคะแนนเข้าให้อีกในข้อหาหนีบหมัด ทำให้ต้องเสมอกันไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ 115-112, 112-114, และ 113-113 ชวดครองแชมป์โลกไปอย่างน่าเจ็บใจ<br /><br />อกหักซ้ำสองจากการชิงแชมป์โลก เที่ยวนี้ เด่นเก้าแสน หลังหักกลบลบหนี้ได้ค่าเหนื่อยกลับบ้านเพียงแค่แสนกว่าบาท ซ้ำยังต้องพักรักษาหัวแม่โป้งนิ้วมือตัวเอง ที่บาดเจ็บอีกนานหลายเดือน ทำเอาเจ้าตัวท้อ คิดอยากจะเลิกมวยไปเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยปัญหาชีวิตครอบครัวที่แร้นแค้นและยากจน ทำให้ต้องทนชกมวยต่อไป<br /><br />และไม่นานนักเสี่ยนริสก็ดันให้ขึ้นชิงแชมป์ฟลายเวตสภามวยเอเชีย (ABCO) ที่ปัจจุบันเป็นมาเป็น WBC Asia ที่ว่าง และเจ้ามะก็เอาชนะน็อก เรย์ โอราอิส นักชกฟิลิปปินส์ ยก 3 เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2551 ได้ครองแชมป์สมใจ แต่แล้วลูกพี่ก็ให้สละตำแหน่ง และหันกลับไปชิงแชมป์ฟลายเวตเฉพาะกาล PABA อีกครั้ง เพื่อช่วยเพื่อนซี้ "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผจก.ร่วมขึ้นป้ายเป็นคู่เอก เอาใจสปอนเซอร์ใหญ่กระทิงแดงยิม และคราวนี้ก็ชนะน็อก เดนนิส จูนตินลาโน่ ในยก 2 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ได้แชมป์มาคาดเอวอีกเส้น<br /><br />และหลังจากนั้นไม่นาน ทางสมาคมมวยโลกก็ได้มีคำสั่งอย่าเงป็นทางการเด่นเก้าแสนขึ้นชิงแชมป์โลกอีกเป็นครั้งที่สามในชีวิต ด้วยข้อเสนออันงดงาม ค่าตัว 6 หมื่นเหรียญสหรัฐ ตั๋วเครื่องบิน 7 ใบ ในไฟต์บังคับ ที่ไม่มีอ๊อปชั่นผูกมัดลังการชกใดๆ รวมวันเก็บความแค้น เพื่อรอคอยวันชำระมาหนึ่งปีพอดี<br /><br />และเหนืออื่นใด เขาต้องแบกภาระสารพัน การชกทุกครั้งจะถูกหักหนี้เพื่อชำระหนี้สินที่หยิบยืมไป ทั้งยังต้องเลี้ยงดูครอบครัวภรรยาและลูกน้อย ไหนจะต้องถูกไล่ที่หาที่อยู่ใหม่ทันที เมื่อกลับจากญี่ปุ่นในครั้งนี้<br /><br />ก่อนขึ้นเครื่อง เจ้าตัวทนความเก็บกดไม่ไหว ถึงกับต้องถามผู้จัดการส่วนตัวอย่างตรงไปตรงมา ทั้งที่เป็นคนขี้เกรงใจและมักไม่กล้ามีคำถามโต้แย้งใดๆ มาตลอด เมื่อได้คำตอบว่า ค่าเหนื่อยจากการชกครั้งนี้ เขาจะได้ส่วนแบ่ง 5 แสนบาท..!! เป็นมูลค่าที่เจ้าตัวพอใจ ถือว่าพอเพียงต่อความอัดอั้นตันใจที่ต้องเก็บสะสมมานาน<br />ถึงเวลานั้น เขาพร้อมแล้ว ที่จะมุ่งมั่นทุมเท ทุกอย่างเพื่อเดิมพันทั้งชีวิต ความรู้สึกนั้นเจ้ามะถึงขนาดเปรยออกมาให้คนใกล้ชิดได้ฟัง ระหว่างนั่งเครื่องบินมุ่งหน้าสู่แดนอาทิตย์อุทัยว่า "ชกครั้งนี้ ถ้าผมแพ้กลับไป ชีวิตผมจะไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่บ้านก็ไม่มีอยู่..ผมต้องสู้ตายอย่างเดียว"<br /><br />หลังจากนั้น ก็คือเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ที่ซัน พลาซ่า ฮอลล์ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้เด่นเก้าแสน กลายเป็นแชมป์โลกคนใหม่ ชนิดที่เจ้าตัวสะใจลึกซึ้งกว่าใคร<br /><br />เป็นความสำเร็จที่งดงามและรวดเร็วเกินความคาดหมาย สำหรับชัยชนะของ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ที่สามารถคว้าแชมป์ฟลายเวตสมาคมมวยโลก (WBA) มาครองสมใจ ด้วยการชนะน็อก ทาเคฟูมิ ซากาตะ เจ้าของตำแหน่งชาวซามูไรลงได้เพียงแค่ยกที่ 2 เท่านั้น ของการชกที่ ซันพลาซ่า ฮอลล์ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อค่ำวันสิ้นปี พุธที่ 31 ธ.ค. 2551 ที่ผ่านมา ด้วยหมัดฮุคขวาเข้าเต็มๆทัดดอกไม้ของเจ้าของตำแหน่งชาวอาทิตย์อุทัยในปลายยกดังกล่าว และหมัดนี้หมัดเดียวเท่านั้นก็ส่งร่างของซากาตะทรุดลงไปกับพื้นอย่างช้าๆ และหงายหลังเหยียดยาวอยู่ข้างเชือก แม้ว่ายอดกรรมการผู้ห้ามบนเวทีจะพยายามนับอย่างช้าๆ เพื่อให้ซากาตะลุกขึ้นได้ แต่ซากาตะก็ยืนไม่อยู่ ทำให้กรรมการผู้นั้นต้องจำใจโบกมือยุติการชกลงด้วยเวลา 2 นาที 55 วินาที ของยกที่ 2 นี้เอง<br /><br />นอกจากจะเป็นความเพียรพยายามของ เจ้ามะ ที่ต้องรอคอยมานานนับสิบปีแล้ว เขายังกลายเป็นแชมป์โลกชาวไทยคนที่ 39 หากนับแค่สถาบันหลัก (WBC, WBA, IBF, WBO) ซ้ำยังเป็นแชมป์โลกชาวใต้คนที่สองต่อจาก โอเล่ห์ดง กระทิงแดงยิม อีกด้วย<br /><br />ส่วนหนึ่งแห่งความสำเร็จของเด่นเก้าแสนในครั้งนี้ มีองค์ประกอบหลายอย่าง นอกจากเสี่ยนริส ผู้สนับสนุนแล้ว ทีมงานสต๊าฟโค้ชเดิม อย่าง ดุรงค์ อพอลโล่, ภูมิ โอซาก้า และยิ่งได้ เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย เข้ามาเป็นเทรนเนอร์ "พิเศษ" เสริมเทคนิคการชก ก็ดูเหมือนความมั่นใจและสภาพความฟิตของเจ้ามะ จะอยู่ในขั้นสมบูรณ์ทุกอย่าง แม้วัยจะปาเข้าไป 32 ปีแล้วก็ตาม องค์ประกอบเหล่านั้น ดูจะเป็นการหล่อหลอมให้ เด่นเก้าแสน มีสภาพพร้อมเต็มพิกัด<br /><br />การได้แชมป์โลกเส้นนี้มาครอง โดยไม่มีอ๊อปชั่นหรือสัญญาใดๆผูกมัด ยังไม่ทันข้ามคืนก็ดูเหมือนเส้นทางของแชมป์โลกคนใหม่ชาวไทยจะมีตัวเลือกแจ้งเกิดใหม่อย่างทันตาเห็นเลยทีเดียว<br /><br /></span><span lang="th" style="color:#000000;">คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ชัยชนะอย่างเด็ดขาดของ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม เหนือ ทาเคฟูมิ ซากาตะ เพียงแค่ยกที่ 2 จนสามารถคว้าเข็มขัดแชมป์ฟลายเวต สมาคมมวยโลก (WBA) มาครองได้สำเร็จ เป็นของขวัญอันล้ำค่ายิ่ง สำหรับพี่น้องชาวไทย รับศักราชใหม่ปี พ.ศ.2552 เลยทีเดียว ก่อนจะเป็นแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยสถาบันหลักคนที่ 39 เส้นทางของเด่นเก้าแสน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ต้องต่อสู้ ผ่านชัยชนะและพ่ายแพ้มาอย่างโชกโชน จัดว่าเป็นนักสู้ชีวิตที่มีความมานะบากบั่น ในทำนองเดียวกับ "สมจิตร จงจอหอ" ที่ล้มเหลวหลายครั้ง กว่าจะคว้าเหรียญโอลิมปิกมาครอง แต่บทสรุปของเด่นเก้าแสน จะสมบูรณ์แบบด้วยเกียรติยศและรางวัลหมือนอย่างที่สมจิตรได้หรือไม่ เวลาและผลงานของเด่นเก้าแสน จะเป็นผู้ตอบคำถาม<br /><br />และเส้นทางข้างหน้าของเด่นเก้าแสน ก็คือ จะต้องพยายามป้องกันแชมป์ รักษาเข็มขัดแชมป์ให้เหนียวแน่นที่สุด เพื่ออนาคตของตนเองและครอบครัว<br /><br />หลังจากได้เข็มขัดแชมป์ เด่นเก้าแสนเล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ตัวเองว่า ความจริงแล้วชกมวยมามากมาย ป้องกันแชมป์พาบาแต่ละสมัย รวมกันแล้วก็ไม่น้อยเลยทีเดียว<br /><br />ครั้งอยู่กับน้าใหม่ เมืองคอน ช่วงแรกๆ ป้องกันแชมป์พาบาได้ 18 ครั้ง ชกแต่ละครั้งได้ค่าตัวไฟต์ละ 1 แสนบาท เมื่อย้ายมาอยู่กับ เสี่ยนริส สิงหวังชา ได้ค่าตัวน้อยเหลือไฟต์ละ 8 หมื่นบาท คนภายนอกอาจจะคิดว่า น่าจะมีเงินเก็บมากมายพอสมควร แต่ความจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะสมัยอยู่กับน้าใหม่ เงินค่าตัวส่วนใหญ่จะได้แบบผ่อนส่ง เพราะน้าใหม่ไม่ค่อยมีเงิน ซ้ำค่าใช้จ่ายในค่ายช่วงนั้นก็มีภาระเยอะมากมาย บางทีไม่มีเงินก้อนให้ จ่ายเป็นเดือนบ้างก็บ่อยไป แต่เราก็เข้าใจเขา ยิ่งมาอยู่กับเสี่ยนริส ค่ากินอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ เราต้องดูแลตัวเองตลอด ไหนจะเรื่องเลี้ยงดูลูกและเมียด้วย เรื่องชกมวยต้องรอนาน 3-4 เดือนจึงจะได้ชกสักครั้ง จึงแทบไม่มีเงินเหลือใช้ในแต่ละเดือน โชคยังดีถ้าช่วงไหนชอร์ตขึ้นมา สามารถไปขอหยิบยืมเสี่ยนริสได้ตลอดเวลา แต่เมื่อชกมวยแล้ว จะต้องถูกหักหนี้แต่ละครั้งไป<br /><br />ชีวิตครอบครัว เด่นเก้าแสนอยู่กินกับภรรยาคนที่สอง จารุณี เกียรติวงศ์ มา 6 ปีแล้ว มีทายาทวัยขวบครึ่งชื่อ ด.ญ.ฐิติมา หวังมุ๊ หรือ "น้องแวซง" เป็นพยานรัก ก่อนหน้านั้น อยู่กินกับภรรยาคนแรก ใช้ชีวิตกันมาสิบกว่าปี มีลูกชายหนึ่งคน คือ ด.ช.โสพล หวังมุ๊ ปัจจุบันอายุ 12 ขวบ เมื่อหย่าร้างกับภรรยาคนแรก ลูกชายไปฝากเลี้ยงไว้กับ ปู่และย่าที่เกาะสมุย เรียนหนังสือที่นั่น แชมป์โลกคนล่าสุด ยังเล่าว่า ใครๆ มักจะพูดว่า ศาสนาเราให้มีภรรยาได้หลายคน แต่เรื่องจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น<br /><br />"ผมเห็นเขาพูดกันเยอะ แต่จริงๆมีที่ไหนกัน ผู้หญิงที่ไหน ใครเขาจะไปยอมให้เรามีเมียพร้อมๆ กันได้ ภรรยาคนปัจจุบันก็ขี้หึงจะตาย แค่เอ่ยชื่อพูดถึงก็ไม่ได้ จะเป็นเรื่องราวกันตลอด"<br /><br />"ตัวผมก็ไม่อยากมีปากมีเสียงอยู่แล้ว ความจริงโทษใครไม่ได้ ต้องบอกว่า เราต้องโทษตัวเอง ที่ทำอะไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ มีครอบครัวแล้วสมัยก่อนยังทำตัวเหลวไหล เที่ยวเตร่นอกลู่นอกทางบ้าง แต่ถึงวันนี้ประสบการณ์สอนเราให้โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก"<br /><br />"ผมคิดว่าวันนี้ได้เป็นแชมป์โลกแล้ว ชีวิตอาจจะดีขึ้น น่าจะพอลืมตาอ้าปากขึ้นได้บ้างครับ" แชมป์โลกนักสู้ชีวิตกล่าวอย่างมีความหวัง<br /><br /><strong>"เจ้ามะ"ในทรรศนะคนใกล้ชิด </strong><br /><br /><strong>เขาทราย แกแล็คซี่ </strong><strong>เทรนเนอร์ "เฉพาะกิจ"<br /></strong><br />" ผมได้ชื่อว่าเป็นมวยที่ชกลำตัวดีที่สุดในรุ่น จูเนียร์แบนตั้มเวตของโลก เป็นมวยที่ถนัดออกหมัดฮุกทั้งซ้ายและขวา แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อผมได้เข้ามาเทรนเขา(เด่นเก้าแสน) เขาเป็นมวยที่ต่อยหมัดตรงได้ดีที่สุดคนหนึ่ง เมื่อผมเน้นให้เขาออกหมัดต่อยลำตัว เห็นได้ชัดว่า เขาออกหมัดชกลำตัวด้วยหมัดตรงได้ดีกว่าผมเสียอีก"<br /><br /><strong>"แชแม้"นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผจก.ร่วม<br /><br /></strong></span><span lang="th" style="color:#000000;">"เด่นเก้าแสน เป็นมวยที่ชกฉลาด เขาเรียนรู้การชกได้เร็ว มวยอย่างเขาถึงจะอายุ 32 ปีแล้ว แต่ถ้าเขามีระเบียบวินัย ดูแลตัวเหมือนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เหมือนอย่างเขาทราย อายุตัวเลขไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาแน่ อย่างน้อยเขาสามารถชกมวยไปได้อีกนานหลายปีเลยทีเดียว"<br /><br /><strong>"ดันดี" ดุรงค์ อพอลโล่ เทรนเนอร์คู่บารมี </strong><br /><br />"เจ้ามะเป็นคนดี มีน้ำใจ กับน้องๆ และเพื่อนร่วมค่ายทุกคนเสมอ แม้จะไม่มีเงิน แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งคนอื่น เวลามีเราก็กินด้วยกัน เวลาอดเราก็อดด้วยกัน เขาไม่เคยถือตัว เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด ถือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักมวยรุ่นน้องในค่ายเลยทีเดียว<br /><br /><strong>นริส สิงหวังชา ผจก.ส่วนตัว </strong><br /><br />"โอกาสที่เขาจะทำเงินทำทองมากมายมหาศาลนั้นรออยู่ข้างหน้า เพราะขณะนี้ เราได้รับการติดต่อจากทางญี่ปุ่นมากมายหลายราย โดยเฉพาะที่สำคัญหากได้ชกกับนักมวยตระกูล"คาเมดะ" ไม่ว่าจะเป็นพี่หรือน้อง เขาจะได้ค่าตัวในแต่ละไฟต์ไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว<br /><br />(ต้นฉบับภาพประกอบจาก Associated Press; เรียบเรียงและเพิ่มเติมจาก "จับเข่า "เด่นเก้าแสน" กว่าจะถึง "บัลลังก์แชมป์"" โดย สร้อย มั่งมี หนังสือพิมพ์ข่าวสด ปีที่ 18 ฉบับที่ 6614 วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552, และ "เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม แชมป์โลกที่ได้มาเพราะความพยายาม" โดย สร้อย มั่งมี หนังสือพิมพ์ข่าวสด ปีที่ 18 ฉบับที่ 6611 วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552)</span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-69424030401400868412008-08-31T16:00:00.009+07:002008-08-31T16:30:19.678+07:00เกียรติชัย สิงห์วังชา<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/kiatchai.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><b><br /><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: <span style="color:#000000;">เกียรติชัย สิงห์วังชา</span></span></span><br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-size:100%;color:#0000ff;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span><span lang="th" style="font-size:100%;color:#000000;">อาทิตย์ ประดิษฐ์ผล<br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span> <span style="color:#000000;"><span lang="th">17 ตุลาคม</span> 25<span lang="th">25</span></span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span><br /></span><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">: </span></span><span lang="th" style="color:#000000;">ประทิล, ชุมพร</span><br /></span></b><span lang="en-us"><b><br /></b></span><span style="font-size:100%;"><b><span style="color:#0000ff;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span> <span style="color:#000000;"><span lang="th">26</span>-5-</span></b><span lang="th" style="color:#000000;"><b>0</b></span></span><b><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us">; 16</span><span lang="en-us">KO</span></span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span><br /></span><span style="font-size:100%;color:#0000ff;">เกียรติยศ</span><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ซูเปอร์ไลต์เวตเฉพาะกาล PABA (2546-2547)<br />แชมป์ซูเปอร์ไลต์เวต PANA (2547)<br /><span lang="th">แชมป์ซูเปอร์เวลเตอร์เวต WBF</span> (<span lang="th">2551-ปัจจุบัน</span>)</span></span></b></span></p><p><strong><span style="font-family:Arial;"></span></strong></p><p><span style="color:#000000;"><span lang="th"><br /></span></span><span lang="th" style="color:#000000;">เกียรติชัยเป็นนักมวยธรรมดาๆ ที่ขึ้นชกชนะมา 13 ครั้งรวดในชื่อค่าย "13 เหรียญทาวเวอร์" ภายใต้การสร้างสรรค์ของ "จอมวันทาสิบทิศ" ใหม่ เมือง คอน ก่อนที่จะได้รับโอกาสให้เดินทางไปชิงแชมป์ซูเปอร์ไลต์เวตเฉพาะกาล PABA เมื่อวันที่ 19 กรกรฎาคม 2546 และก็เอาชนะน็อค เฟร็ดดี้ ฟาอุต ไปแค่ยกแรก ได้ครองแชมป์สบายๆ ในการชกที่สระบุรี<br /><br />เขาอุ่นเครื่องเพียงครั้งเดียวก็ได้ถูกส่งให้ไปชิงแชมป์ตัวจริงที่ว่างกับทาง อันโดโน่ โจโยเตอร์ต้า ที่อินโดนีเซีย และเกียรติชัยก็โชวฟอร์มถลุงนักชกเจ้าถิ่นพ่าย TKO ไปในยกที่ 11 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 กลายเป็นแชมป์โดยสมบูรณ์แบบ แต่ก็ครองตำแหน่งได้แค่ 6 เดือน เมื่อกลับไปป้องกันแชมป์ที่อินโดนีเซียแล้วพ่ายคะแนน ดาอูดี้ย์ บาฮารี ลูกโปรโมเตอร์ผู้จัดศึกไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ค้านสายตา เมื่อวันที่ 25 กันยายนปีเดียวกัน<br /><br />ปีต่อมาเขาได้โอกาสบินไปชิงแชมป์ IBF Pan Pacific รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวตที่ว่าง กับ เลิฟมอร์ น'ดู นักชกระดับโลกที่ออสเตรเลีย และก็พ่ายน็อคไปแค่ยก 4 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2548 อย่างน่าเสียดาย<br /><br />เกียรติชัยกลับมาอุ่นเครื่องอีก 2 ครั้งชนะรวด ก็ได้โอกาสไปชิงแชมป์ IBF Pan Pacific รุ่นเวลเตอร์เวตที่ว่าง<br />กับ แชด เบ็นเน็ตต์ ที่ออสเตรเลียอีกครั้ง แต่คราวนี้โดนถล่มพ่ายน็อคไปเพียงยกแรก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2549<br /><br />เกียรติชัยทำท่าจะแย่ เมื่อพ่ายคะแนน สถาพร สิงห์วังชา อีกในไฟต์ถัดมา แต่แล้วเขาก้ได้รับการสนับสนุนต่อในสีเสื้ "สิงห์วังชา" นี้ขึ้นชกชนะรวดอีก 7 ไฟต์ ก่อนที่จะเดินทางไปพ่าย KO8 ให้กับ วิตาลี่ ดิเมียเนนโก้ ที่คาซัคสถาน ชิงแชมป์เวลเตอร์เวต ABCO, WBO Asia-Pacific, และ PABA ไม่สำเร็จ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2550<br /><br />แต่แล้วเกียรติชัยก็สร้างเซอร์ไพร้ เมื่อได้โอกาสเดินทางไปชิงแชมป์ซูเปอร์เวลเตอร์เวต WBF ที่ว่างกับขวัญใจเจ้าถิ่น ฮัมซ่า อิซซ่า ดีกรีแชมป์เวลเตอร์เวต WBF ที่สละตำแหน่งข้ามรุ่นมาชิงแชมป์รุ่นใหญ่กว่า โดยการนำทัพไปโดย คุณทัศนุ อัศวะภพ หรือ "หนุ่มจรัล" แมทช์เมเกอร์ชาวไทย ซึ่งนักชกทั้ง 2 ต่างพร้อมใจกันชั่งน้ำหนักก่อนการชก 1 วันได้ 66.7 กิโลกรัมหรือ 147 ปอนด์เศษเท่านั้น เบากว่าพิกัดไปเกือบ 7 ปอนด์เต็มๆทั้งคู่ โดยแมทช์นี้จัดขึ้นภายใต้การดูแลของกระทรวงกีฬาและพลศึกษา (Ministry of Sport and Physical Education) ของคาเมรูนเลยทีเดียว<br /><br />การชกในไฟต์นี้ตามรายงานระบุว่างนักชกหนุ่มไทยเป็นฝ่ายใช้พลังกำปั้นอันหนักหน่วงจวกเอาอิซซ่าร่วงลงไปนับทุกยก และในที่สุดนักชกวัยเบญจเพสของไทยก็ถลุงเอาขวัญใจเจ้าถิ่นลงไปกองกับพื้นเป็นครั้งที่ 6 ทำให้ มร. อัลเฟรด อัสซาโร่ กรรมการผู้ห้ามบนเวทีทนดูไม่ไหว ต้องจับทางอิซซ่าพ่าย TKO ไปในยกที่ 5 ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าขวัญใจเจ้าถิ่นจะพ่ายแพ้ในไฟต์นี้ อย่างไรก็ตามเกียรติชัยนั้นยังได้รับการปรบมือจากกองเชียร์เจ้าถิ่นอย่างกึกก้อง และยังมีแฟนๆมวยจำนวนหนึ่งได้ตามมาสวมกอดและขอถ่ายรูปแชมป์คนใหม่อีกด้วย นับได้ว่าแฟนมวยคาเมรูนนั้นดูกีฬาอย่างมีน่ำใจนักกีฬามากทีเดียว<br /><br />(ต้นฉบับภาพประกอบจาก WBF Official Website)</span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-10160603860010336242008-08-31T15:54:00.003+07:002008-08-31T15:59:41.555+07:00โอเล่ห์ดง กระทิงแดงยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/oleydong.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><b><br /><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span><span lang="th" style="color:#000000;">โอเล่หดง กระทิงแดงยิม</span><br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-size:100%;color:#0000ff;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span><span lang="th" style="font-size:100%;color:#000000;">กิตติพงษ์ ใจกระจ่าง<br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span> <span style="color:#000000;"><span lang="th">17 กรกฎาคม</span> 25<span lang="th">28</span></span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span><br /></span><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">: </span></span><span lang="th" style="color:#000000;">รัษฎา, ตรัง</span><br /></span></b><span lang="en-us"><b><br /></b></span><span style="font-size:100%;"><b><span style="color:#0000ff;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span> <span style="color:#000000;"><span lang="th">32</span>-<span lang="th">0</span>-</span></b><span lang="th" style="color:#000000;"><b>0</b></span></span><b><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us">; 1</span><span lang="th">2</span><span lang="en-us">KO</span></span></span><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><br /></span><br /></span><span style="font-size:100%;color:#0000ff;">เกียรติยศ</span><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมปมินิมั่มเวต ABCO (254<span lang="th">5</span>-254<span lang="th">8</span>)<br />แชมป์มินิมั่มเวตเยาวชน WBC (2545-2550)<br /><span lang="th">แชมป์มินิมั่มเวต </span>WBC (<span lang="th">2550-ปัจจุบัน</span>)</span></span></b></span></p><p><strong><span style="font-family:Arial;"></span></strong></p><p><span style="color:#000000;"><span lang="th"><br />โอเล่ห์ดง ศิษย์เสมอชัย นักมวยไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ตัดสินใจขึ้นชกมวยสากลอาชีพในชื่อ โอเล่ห์ดง กระทิงแดงยิม ในปี 2545 และเพียงการชกไฟต์ที่ 3 เขาก็สามารถคว้าแชมป์มินิมั่มเวตเยาวชนสภามวยโลกที่ว่างมาครองได้สำเร็จ พร้อมทั้งได้รับการสถาปนาเป็นแชมป์ของ </span>ABCO <span lang="th">รุ่นนี้ไปพร้อมๆกัน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2545 ด้วยการเอาชนะคะแนน อาร์มัน เดอ ลา ครู๊ซ นักชกชาวชาวฟิลิปปินส์ จากนั้นก็ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ดุถึง 12 ครั้ง ก่อนจะประกาศสละแชมป์ของ </span>ABCO </span><span style="color:#000000;"><span lang="th">ในปี 2548<br /><br />เขาป้องกันตำแหน่งแชมป์เยาวชนเอาไว้ได้อีก 4 ไฟต์และมีอันดับโลกสูงถึงอันดับที่ 1 ในรุ่นมินิมั่มเวตของ </span>WBC </span><span lang="th" style="color:#000000;">และก็ได้รับโอกาสให้ขึ้นชกตัดเชือกกับ โอมาร์ โซโต้ รองเบอร์ 2 จากเปอร์โตริโก้ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2549 ซึ่งก็สามารถเอาชนะคะแนนไปได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่สวยงามเท่าไหร่นัก ทำให้ได้สิทธิ์ในการขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นนี้กับ อีเกิ้ล เด่น จุลพันธ์ เจ้าของตำแหน่งชาวไทยมวยสร้างของญี่ปุ่นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2550<br /><br />ซึ่งโอเล่ห์ดงก็ไม่ทำให้ผู้สนับสนุนผิดหวัง เมื่อใช้สไตล์ตีหัวเข้าบ้านทำคะแนนเข้าตากรรมการทั้ง 3 ท่าน ก่อนที่จะเอาชนะคะแนนนักชกรุ่นพี่ไปเฉียดฉิว 115-114, 115-113, และ 117-112 กลายเป็นแชมป์โลกชาวใต้คนแรกอย่างสมภาคภูมิ<br /><br />หลังจากนั้นเขาได้ขึ้นชกอุ่นเครื่องชนะน็อค 1 ครั้ง ก่อนที่จะขึ้นป้องกันแชมป์หนแรกเอาชนะ KO9 จุนอิชิ เอบิสึโอขะ ผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา<br /><br />(ภาพประกอบจากสำนักข่าวต่างประเทศ)</span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-63955926436934362162008-08-31T15:45:00.003+07:002008-08-31T15:53:34.584+07:00วินยู ภราดรยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/winyu.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /><br /><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span></span></span><span lang="th" style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">วินยู ภราดรยิม</span><span style="color:#000000;"><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span lang="th" style="font-family:arial;color:#000000;">จิรวดี สีสุข<br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span lang="th" style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">28 สิงหาคม 2526</span><br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span lang="th" style="font-family:arial;color:#000000;">พิษณุโลก<br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">สถิติ<span lang="en-us">: </span></span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">7-2-1<span lang="en-us">; </span><span lang="th">1</span></span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;color:#000000;">KO<br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><span style="font-family:arial;">เกียรติยศ</span><span lang="en-us" style="font-family:arial;">:<br /></span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">แชมป์<span lang="th">อะตอมเวต</span> <span lang="en-us">WBC Female (</span>2550-<span lang="th">2551)</span></span></span></b></p><span style="color:#000000;"><span lang="th"><p align="justify"><span style="font-family:arial;"><span lang="th"><br />วินยูเป็นอดีตนักชกเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมาได้หันเหมาเอาดีทางมวยไทยหญิงอีกด้วย ช่วงแรกของการชกมวยเธอใช้ชื่อว่า ยูฟ่า ภราดรยิม และเมื่อเธอหันมาชกสากลอาชีพหญิงภายใต้การสนับสนุนของ "วันทรงชัย โปรโมชั่น" เมื่อปี 2549 ไฟต์แรกเธอก็ถูกประกบให้ขึ้นชกกับอดีตผู้ท้าชิงแชมป์มินิมั่มเวต </span>WBC Female <span lang="th">อย่าง น้องใหม่ ส.สิริพร และเธอก็สามารถเอาชนะคะแนนน้องใหม่ไปได้ในกำหนด 4 ยกอย่างเหนือความคาดหมาย แต่ไฟต์ที่ 2 ของเธอก็ต้องพบกับ แซมซั่ม ส.สิริพร อดีตผู้ท้าชิงแชมป์มินิมั่มเวต </span>WBC Female<span lang="th"> อีกราย แต่ครั้งนี้เธอต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนไปในกำหนด 6 ยก และต่อมา แซมซั่มคนนี้ก็ได้กลายเป็นแชมป์โลกมวยหญิงคนแรกของไทย เมื่อคว้าแชมป์ไลต์ฟลายเวต </span>WBC Female </span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">มาครองได้ในต้นปี 2550<br /><br />แม้ว่าจะพ่ายแพ้ แต่วินยูก็ยังได้รับการผลักดันต่อ โดยคราวนี้เธอได้โอกาสขึ้นชกตัดเชือกเพื่อหาผู้ชนะไปชิงแชมป์อะตอมเวต </span>WBC Female </span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">ที่ว่างอยู่ โดยต้องพบกับ นักชมากประสบการณ์อย่าง ลิลี่ ราชประชายิม โดยวินยูพลาดถูกลิลลี่จ้วงลงไปนับ 8 ในยกที่ 4 ก่อนที่จะหันมาใช้ฝีมือล้วนๆจนทำให้ลิลลี่ทำอะไรไม่ถนัด และคว้าชัยชนะไปได้ด้วยคะแนนในกำหนด 8 ยก<br /><br />หลังจากไฟตนั้นเธอก็ขึ้นลับหมัดอีกหนเมื่อเดือนพฤาภาคม 2550 และก็เอาชนะ </span>TKO5 </span><span lang="th"><span style="font-family:arial;">แพนด้า อ.ยุทธชัย ลงได้สำเร็จ และเมื่อเธอได้ขึ้นชิงแชมป์โลกของจริงในไฟต์ต่อมากับทาง โมโม่ โคเซขิ นักชกสาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2550 ที่อำเภอผักไฟ่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เธอก็คว้าชัยชนะมาได้แบบเฉียดฉิว แต่ฟอร์มยังไม่ดีนักเพราะดูเกร็งๆมากไปสักหน่อย ทำให้เธอกลายเป็นแชมป์โลกมวยหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทยไปในที่สุด<br /><br />หลังจากได้แชมป์โลกมาครองวินยูก็ขึ้นอุ่นเครื่องชนะรวด 4 ครั้ง แต่ 1 ในนั้นเป็นการชกกับนักมวชายคือ เจริญชัย ส.รุ่งธนะชัย จึงไม่ได้รับการรับรองสถิติการชกไฟต์นี้<br /><br />ล่าสุดเธอบินไปให้โมโม่แก้มือที่ญี่ปุ่น มเอวันที่ 11 สิงหาคม 2551 แต่ไฟต์นี้วินยูโดนหัวของผู้ท้าชิงโขก 2 ครั้งอย่างแรง ครั้งสุดท้ายเธอถึงร่วงลงไปลุกไม่ขึ้น แพ้น็อคไปแบบน่าเสียดายแค่ยกที่ 2 เท่านั้น และแม้ว่าทีมงานจะประท้วงไปทาง WBC แต่ก็ไม่เป็นผล<br /><br />(ต้นฉบับภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์มวยสยามรายวัน ซอคเกอร์ ทูเดย์<strong>)</strong></span></span></p></span></span>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-81091609573145150192008-08-31T15:43:00.003+07:002008-08-31T15:45:51.505+07:00แซมซั่น ส.สิริพร<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/samsonying.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /><br /><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span></span></span><span lang="th"><span style="font-family:arial;color:#000000;">แซมซั่น ส.สิริพร</span></span><span lang="th" style="color:#000000;"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span lang="th" style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">ศิริพร ทวีสุข</span><br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span lang="th" style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">26 เมษายน 2526</span><br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span lang="th" style="font-family:arial;color:#000000;">ลพบุรี<br /></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">11-<span lang="th">2</span>-<span lang="th">0</span><span lang="en-us">; </span><span lang="th">2</span></span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">KO</span><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><span style="font-family:arial;">เกียรติยศ</span><span lang="en-us" style="font-family:arial;">:<br /></span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;">แชมป์<span lang="th">ไลต์ฟลายเวต</span> <span lang="en-us">WBC Female (</span>2550-<span lang="th">ปัจจุบัน</span>)</span></b></p><p><span style="font-family:arial;"></span></p><p align="justify"><span style="font-family:arial;"><br /><span style="color:#000000;">“แซมซั่น ส.สิริพร” มีชื่อและนามสกุลจริงว่า “ศิริพร ทวีสุข” มีภูมิลำนำอยู่ที่จังหวัดลพบุรี เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2526 จะมีอายุครบ 24 ปีบริบูรณ์ในเดือนเมายนที่จะถึงนี้ บิดา-มารดา ชื่อนายมานพ ทวีสุข และนางทรงศิลป ขำศรี มีพี่ชาย 1 คน และพี่สาว 1 คน บิดา-มารดา เสียชีวิตทั้งคู่ ตั้งแต่ แซมซั่น (ศิริพร) ยังแบเบาะ ญาติผู้ใหญ่ที่เหลือคือยาย ยายจึงนำไปเลี้ยงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จบการศึกษาประถมการศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนแถวบ้าน และก็ไม่ได้เรียนต่อ ไม่ทำงานการใดๆ จนกระทั่งถูกเพื่อนให้ลองเสพยาเสพติดในเบื้องต้น และต่อมาก็กลายมาเป็นผู้ขาย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าทำการจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด ถูกศาลตัดสินลงโทษให้ถูกจำขัง เป็นเวลา 10 ปี โดยครั้งแรกรับโทษอยู่ในเรือนจำจังหวัดลพบุรี เป็นเวลา 2 ปี จากนั้นจึงถูกส่งตัวมาทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง จนถึงปัจจุบัน ซึ่งทั้งสองแห่ง แซมซั่น ได้ถูกจำขังรวมกันมาแล้วเป็นเวลาถึง 8 ปีเต็ม<br /><br />มาอยู่ที่ทัณฑสถานใหม่ๆ ทางเรือนจำก็ยังไม่ได้ทำการคัดเลือกให้เข้าหน่วยงานใดๆ จนกระทั่งผ่านไประยะหนึ่งจึงได้สมัครเข้าทำงานที่โรงงานฝึกวีชาชีพเย็บผ้า และหลังจากที่ “ค่ายมวย ส.สิริพร” เปิดดำเนินการเมื่อเดือนพฤาภาคม 2547 ซึ่งค่ายมวยก็อยู่ที่บริเวณหน้าโรงงานนั่นเอง แซมซั่นเย็บผ้าไป ก็เฝ้าดูเพื่อนผู้ต้องขังซ้อมมวยไป ตอนแรกก็ไม่สนใจการชกมวยสักเท่าไหร่ จนกระทั่งตัดสินใจมาสมัครเข้าร่วม เมื่อตอนปลายปี 2547 เพียงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการออกกำลังกายเท่านั้น<br /><br />แววความเป็นมวย และเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ได้รับการส่งเสริมให้ขึ้นชิงตำแหน่งแชมป์โลกก็มาปรากฏ เมื่อครั้ง เพื่อนผู้ต้องขัง “น้องใหม่ ส.สิริพร” ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่น 105 ปอนด์ที่ว่าง ของ<span lang="th"> </span>WBC Female กับ “นานาโกะ คิคูชิ” นักมวยสาวจากญี่ปุ่น และ “น้องใหม่” เป็นฝ่ายพ่ายแพ้น็อคเอาท์ไปในยก ที่ 7 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ที่สนามมวยชั่วคราว ภายในทัณฑสถานวัยหนุ่ม ปทุมธานี ครั้งนั้น แซมซั่น ขึ้นชกเป็นคู่ประกอบรายการ และเป็นการชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกในชีวิต แซมซั่นสามารถเอาชนะนักมวยผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปอย่างสวยงาม และนักมวยคนนั้นเป็นเจ้าของเหรียญทองของกีฬาภายในกรมราชทัณฑ์อีกด้วย ในวันนั้น แมทช์เมคเกอร์ “เอ้ดดี้” ชูวงศ์ ทุมกิจจ์ จึงพูดขออนุญาติท่านอธิบดี นายนัทธี จิตสว่าง เพื่อขออนุญาต ให้ แซมซั่น ซึ่งขณะนั้น ยังใช้ชื่อ “ศิริพร ส.สิริพร” ขึ้นเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกในอ็อพชั่นที่มีอยู่ กับ “นานาโกะ คิคูชิ” ต่อไป </span></span><span lang="th"><br /><br /><span style="font-family:arial;color:#000000;">แต่ทว่าทาง</span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"> “แซมซั่น<span lang="th"> </span>(ศิริพร) ส.สิริพร” <span lang="th">ก็ตก</span>เป็นฝ่ายแพ้คะแนน (10 ยก) ให้กับแชมป์โลก “นานาโกะ” เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 โดยการจัดการแข่งขันถ่ายทอดสดทางช่อง 3 จากสนามมวยชั่วคราวในเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งคราวนั้นแซมซั่นได้แสดงธาตุแท้แห่งความเป็นนักชกที่ไม่ยอมแพ้ แม้ฝีมือจะสู้ไม่ได้ แต่ก็กัดฟันสู้กับแชมป์โลกนานาโกะอย่างน่าชมเชย จนระฆังหมดยกสุดท้าย ซึ่งในวันนั้น แมทช์เม็คเกอร์ระดับโลก “เอ้ดดี้” ชูวงศ์ ทุมกิจจ์ ก็ได้คิดไว้ในใจว่า ถ้าได้เสริมเท็คนิคการชก และพาชกอุ่นเครื่องเพื่อหาประสบการณ์ และกระดูกเพิ่มขึ้น เด็กคนนี้จะมีอนาคตที่ดีได้ อาจจะถึงตำแหน่งแชมป์โลกทีเดียว<br /><br /><span lang="th">และในที่สุดฝันของเธอก็เป็นจริงจนได้ เมื่อทางผู้สนับสนุนได้จัดให้เธอได้ขึ้นชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต </span>WBC Female </span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="th">ที่ว่างลงเนื่องจากแชมป์เก่าชาวเกาหลีเหนือสละตำแหน่ง โดยคู่ชกของเธอก็คือ "นินจาสาว" อยากะ มิยาโนะ จากญี่ปุ่น และแซมซั่นใช้ความใหญ่และความได้เปรียบของสรีระเดินไล่ต่อยอยากะอยู่ข้างเดียว จนครบ 10 ยก กรรมการต่างรวมใจให้เธอชนะไปเอกฉันท์ 100-91, 98-92, และ 97-93 กลายเป็นแชมป์โลกมวยหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ไทย และเป็นแชมป์โลกคนแรกของโลกที่ได้ครองตำแหน่งขณะที่ยังถูกจองจำ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 และก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษในเวลาต่อมาไม่นาน<br /><br />แซมซั่นขึ้นป้องกันแชมป์ครั้งแรกเอาชนะคะแนนแชมป์ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง อันริ นาคากาว่า เมื่อ 15 สิงหาคม 2550 และขึ้นป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2 กับ โมโมะ โคเซกิ อดีตผู้คู่ชิงแชมป์อะตอมเวต </span><span lang="en-us">WBC</span> <span lang="en-us">Female</span> <span lang="th">ที่ว่างชาวญี่ปุ่นของ วินยู ภราดรยิม ในวันที่ 19 พฤศจิกายน</span> 2550 </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="th">ซึ่งแซมซั่นก็เอาชนะคะแนนไปได้แบบสุดเหนื่อย<br /><br />ล่าสุดเธอขึ้นป้องกันแชมปืหน 3 เอาชนะคะแนน คาโยโขะ อีบาตะ แชมป์เงารุ่น 105 ปอนด์ชาวญี่ปุ่นไปแบบหืดจับด้วยคะแนนแบบเสียงข้างมาก เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2551<br /><br />(จากบางส่วนของบทความเรื่อง "จากหลังกำแพงทัณฑสถาน สานฝันสู่........มงกุฎแชมป์โลก " โดย </span>Unseen Prison<span lang="th">/เอ้ดดี้</span>; <span lang="th">ภาพประกอบจากสำนักข่าวต่างประเทศ)</span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-67250725492036262702008-08-31T15:31:00.002+07:002008-08-31T15:38:49.398+07:00พูนสวัสดิ์ กระทิงแดงยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/phoonSawat.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /><b><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย</span><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span> </span><span style="color:#000000;">พูนสว<span lang="th">ั</span>สดิ์ กระทิงแดงยิม</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">ป</span>ระกอบ อุดมมา</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">2</span>0 พฤศจิกายน 2523</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา</span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">:</span> <span style="color:#000000;">อ. ภูพาน, จ. สกลนคร</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">35<span style="color:#000000;">-<span lang="th">1</span>-0<span lang="en-us">; </span>25</span></span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">KO</span><br /></span></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์แบนตั้มเวต </span></span></span></b><span style="color:#000000;"><span lang="en-us" style="font-family:arial;font-size:100%;"><b>PABA (2544-2548</b></span><b><span style="font-family:arial;font-size:100%;">)<br />แชมป์แบนตั้มเวต </span></b><span lang="en-us" style="font-family:arial;font-size:100%;"><b>WBA Fedelatin (2546-2547)<br /></b></span><b><span style="font-family:arial;font-size:100%;">แชมป์แบนตั้มเวตเฉพาะกาล <span lang="en-us">WBA </span>(2548-<span lang="th">2549</span>)<br /></span></b></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><b><span style="color:#000000;">แชมป์<span lang="th">ซูเปอร์</span>แบนตั้มเวต </span></b><span style="color:#000000;"><b><span lang="en-us">PABA (254</span><span lang="th">9</span><span lang="en-us">-</span><span lang="th">ปัจจุบัน</span>)</b></span></span></span></span></p><p><span style="font-family:arial;"></span><p><span lang="TH"><span style="font-family:arial;"><br />เมื่อ<span style="color:black;">เด็กหนุ่มจากภูพาน</span></span></span><span style="color:black;"><span style="font-family:arial;">-<span lang="TH">สกลนครคนนี้ ได้เดินทางเข้ามาชกมวยในเมืองกรุง และด้วยสายสัมพันธ์ทางสายเลือดที่เป็นลูกชายพี่สาวแท้ๆของ</span> "<span lang="TH">พูนสวัสดิ์ ศิษย์ศรทอง</span>" <span lang="TH">มวยแข็งแรงพันดุอดีตแชมป์รุ่น</span> 126 <span lang="TH">ปอนด์ของวิกแอร์ เจ้าของสมญาเก๋ไก๋</span> "<span lang="TH">ไอ้รถถัง</span>" <span lang="TH">เด็กหนุ่มคนนั้นเลยได้ใช้ชื่อตามอย่างน้าชายว่า</span> "<span lang="TH">พูนสวัสดิ์เล็ก ว</span>.<span lang="TH">สิงห์เสน่ห์</span>" <span lang="TH">และด้วยกาที่เขามีลีลาการชกที่บู๊ดุเดือดเดินชนไม่หยุด ดังนั้นคนดูมวยเลยถือวิสาสะเรียกฉายาของเขาว่า</span> "<span lang="TH">ไอ้รถถังจูเนียร์</span>" </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ตามอย่างน้าชายของเขามาตลอด<br /><br />อย่างไรก็ตามพูนสวสัดิ์ยังมีอีกฉายาหนึ่งที่ตั้งโดยคุณ</span> "<span lang="TH">สร้อย มั่งมี</span>" <span lang="TH">นักข่าวชื่อดัง โดยคุณสร้อยให้เหตุผลว่า ตอนเจอพูนสวัสดิ์ใหม่ๆ น่าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนเด็กๆจ้ำม่ำ ตอนนั้นถ้าใครเอาขวดซีอิ๊วไปให้ถือ ก็จะเหมือน</span> "<span lang="TH">เด็กสมบูรณ์</span>" <span lang="TH">ซีอิ๋วขาว</span> "<span lang="TH">หยั่นหวอหยุ่น</span>" <span lang="TH">เลยทีเดียว ตั้งแต่นั้นมาพูนสวัสดิ์จึงมีอีกฉายาหนึ่งว่า</span> "<span lang="TH">เด็กสมบูรณ์</span>"</span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">หลังจากอิ่มตัวกับมวยไทย</span></span><span style="font-family:arial;"> "<span lang="TH">พูนสวัสดิ์เล็ก</span>" <span lang="TH">ได้ตัดสินใจเทิร์นโปรชกมวยสากลอาชีพภายใต้สังกัดของ</span> "<span lang="TH">แกแล็คซี่ บ๊อกซิ่ง โปรโมชั่นส์</span>" <span lang="TH">ของ</span> "<span lang="TH">แชมแม้</span>" <span lang="TH">นิวัฒน์เหล่า สุวรรณวัฒน์ ผู้จงจักภักดีกับสมาคมมวยโลกมาตลอด โดยเพียงปีแรกของการชกสกลพูนสวัสดิ์ก็สามารถค้วาแชมป์แบนตั้มเวต</span> PABA <span lang="TH">มาครองได้เพียงการชกครั้งที่</span> 4 <span lang="TH">เท่านั้น ด้วยการชนะคะแนน</span> 12 <span lang="TH">ยก นักชกจอมเก๋า ลี เอสโคบิโด้ จากฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่</span> 12 <span lang="TH">ตุลาคม</span> 2544 <span lang="TH">หลังจากนั้นเขาก็ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 9 <span lang="TH">ไฟต์รวด โดยเป็นการชนะน็อคถึง</span> 8 <span lang="TH">ไฟต์ด้วยกัน จนรั้งตำแหน่งรองแชมป์โลกอันดับสูง ทางสมาคมมวยโลกจึงได้สั่งให้เขาชกล้มแชมป์กับ มอยเสส คาสโตร แชมป์</span> WBA Fedelatin <span lang="TH">รุ่นเดียวกัน เพื่อหาผู้ที่เหมาะสมในการที่จะชิงแชมป์โลกต่อไปเพียงคนเดียวเมื่อวันที่</span> 29 <span lang="TH">สิงหาคม</span> 2546 <span lang="TH">ที่เมืองไทย และพูนสวัสดิ์ก็ไม่ทำให้ชาวไทยผิดหวัง เดินรุกไล่ถล่มเอาคาสโตรแพ้</span> TKO <span lang="TH">ไปในยกที่</span> 9 <span lang="TH">ได้ครองแชมป์ลาตินเป็นคนแรกของไทยและป้องกันแชมป์</span> PABA <span lang="TH">ครั้งที่</span> 10 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">เอาไว้ได้<br /><br />พูนสวัสดิ์ป้องกันตำแหน่ง</span> 2 <span lang="TH">เส้นเอาไว้ได้</span> 3 <span lang="TH">ครั้ง ก็ตัดสินใจสละแชมป์ลาตินไปในที่สุด โดยมุ่งมั่นป้องกันตำแหน่งแชมป์</span> PABA <span lang="TH">ต่อไปเพียงตำแหน่งเดียว อีกทั้งอันดับโลกก็พุ่งขึ้นสู่เบอร์</span> 1 <span lang="TH">ไปแล้วเรียบร้อย เขาป้องกันแชมป์</span> PABA <span lang="TH">เอาไว้ได้ทั้งสิ้น</span> 17 <span lang="TH">ไฟต์ก็ได้รับโอกาสให้ขึ้นชิงแชมป์เฉพาะกาลรุ่นแบนตั้มเวตของ</span> WBA <span lang="TH">ที่ว่าง เพราะทางแชมป์โลกตัวจริงชาวยูเครน วลาดิเมียร์ ไซโดเรนโก้ มือเจ็บต้องพักยาว และเขาก็ไม่พลาดใช้ความทรหดผสมการเล่นเชิงเอาชนะคะแนนคู่ชิงแชมป์จากปานามา ริคาร์โด้ คอร์โดบ้า ไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่</span> 31 <span lang="TH">สิงหาคม</span> 2548</span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">พูนสวัสดิ์ป้องกันตำแหน่งแชมป์ชั่วคราวเอาไว้ได้เป็นครั้งแรกด้วยการชนะคะแนน 12 ยก </span></span><span style="font-family:arial;">“<span lang="TH">ไอ้แก่</span>”<span lang="TH"> ลีโอ กาเมซ อดีตแชมป์โลก </span>WBA <span lang="TH">4 รุ่น ชาวเวเนซูเอล่าไปได้ด้วยการชกสไตล์บ๊อกเซอร์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา ชนิดขาดลอยเลยทีเดียว</span></span><span lang="th"><br /><br /><span style="font-family:arial;">แ</span></span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ต่พูนสวัสดิ์ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่แชมป์โลกตัวจริงแต่เพียงผู้เดียว เมื่อพลาดท่าพ่ายคะแนน วลาดิเมียร์ ไซโดเรนโก้ แชมป์ตัวจริงชาวยูเครนไปอย่างหน้าเสียดาย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2549 ที่ฮัมบวร์ก เยอรมัน แต่อันดับโลกล่าสุดของเขาก็หล่นมาเพียงเบอร์ 2 เท่านั้น และรอวันที่จะกลับไปชิงแชมป์โลกอีกครั้ง<br /><br />พูนสวัสดิ์ขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต </span>PABA <span lang="TH">เอาชนะ </span>KO2 <span lang="TH">โจนาธาน บา-อัต ไปได้อย่างง่ายดายเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2549 และป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 7 ครั้' </span><span lang="TH">และทาง </span><span lang="en-us">WBA </span>ไ<span lang="TH">ด้มีคำสั่งให้ขึ้นชกตัดเชือกกับ สมศักดิ์ ก่อเกียรติยิม อดีตแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต </span><span lang="en-us">WBA </span>เ</span><span lang="TH"><span style="font-family:arial;">พื่อนร่วมชาติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2551 ซึ่งพูนสวัสดิ์ใช้ความสดบุกตลุยทำเอาสมศักดิ์ที่ตกตาชั่งไปก่อนชกแล้วพ่าย TKO11 ไปอย่างบอบช้ำ ได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกภาคบังคับในที่สุด<br /><br />ระหว่างที่รอชิงแชมป์อยู่นี้พูนสวัสดิ์ก็ขึ้นป้องกันแชมป์ PABA ชนะน็อคไปอีก 2 ครั้งแล้ว<br /><br />(ข้อมูลบางส่วนจากกระทู้ในเว็บบอร์ดโดย "เล็ก มวยตู้" และ "สร้อย มั่งมี",<span lang="TH"> </span><span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก)</span></span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-4537993658502986182008-08-31T15:10:00.001+07:002008-08-31T15:25:44.827+07:00รัตนชัย ก่อเกียรติยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/ratTanachai.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Tahoma;font-size:85%;"><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><b><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อนักมวย: </span></b></span></span><span style="color:#000000;"><b><span lang="th" style="font-family:arial;font-size:100%;">รัตนชัย ก่อเกียรติยิม</span></b></span><span lang="en-us"><b><br /><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อจริง:</span></span></b></span><b><span lang="th"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;"> </span><span style="color:#000000;">ไชยา โพธิ์ทอง</span></span></span></span><span lang="en-us"><br /><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด:</span></span></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;"> 11 พฤษภาคม 2519</span><span lang="en-us"><br /><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา:</span></span></span><span lang="th"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;">อ. ด่านขุนทด, จ. นครราชสีมา</span></span></span></span></b><span lang="en-us"><b><br /><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ:</span></span></b></span><b><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="th"> </span><span style="color:#000000;"><span lang="th">73</span><span lang="th">-10</span><span lang="th">-0</span>;<span lang="th"> </span>49K</span></span></span></b><span lang="en-us"><b><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">O</span><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ:</span></span><br /></b></span></span><span style="color:#000000;"><b><span style="font-family:arial;"><span lang="th">แชมป์จูเนียร์ฟลายเวตประเทศไทย (เวทีราชดำเนิน) (2535)<br />แชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวตประเทศไทย (เวทีราชดำเนิน) (2536-2537)<br />แชมป์ฟลายเวต </span>I</span></b><span lang="en-us" style="font-family:arial;"><b>BF Intercontinental </b></span><span style="font-family:arial;"><b><span lang="th">(2537)<br />แชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต </span>I</b><span lang="en-us"><b>BF Intercontinental </b></span></span><b><span style="font-family:arial;"><span lang="th">(2538)<br />แชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต </span>WBO Asia-Pacific (<span lang="th">2544</span>)<br /><span lang="th">แชมป์แบนตั้มเวต </span>WBO Asia-Pacific (<span lang="th">2</span>54<span lang="th">6</span>-254<span lang="th">7</span>, 2549-2550)<br /><span lang="th">แชมป์แบนตั้มเวต </span>WBO (<span lang="th">2</span>54<span lang="th">7</span>-254<span lang="th">8</span>)</span></b></span></p><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH"><br />"เล็ก" รัตนชัยเป็นน้องชายแท้ๆของอดีตแชมป์มินิฟลายเวต </span>IBF <span lang="TH">2 สมัย "โบ้" รัตนพล ส.วรพิน เขาขึ้นชกมวยสากลอาชีพตามพี่ชายของเขาภายใต้สังกัดเดียวกันมาตั้งแต่ปี 2535 และในปีเดียวกันนี้เขาก็คว้าแชมป์จูเนียร์ฟลายเวตเวทีราชดำเนินที่ว่างมาครองได้ด้วยการชนะคะแนน 10 ยก รุ่งโรจน์ เกียรติเกรียงไกร เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2535 แต่พอป้องกันแชมป์ครั้งแรกก็ดวงแตกแพ้คะแนน 10 ยก คมพยัคฆ์ จ.เจริญ เสียแชมป์ไปเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมปีเดียวกัน พร้อมทั้งเสียสถิติแพ้เป็นครั้งแรกอีกด้วย</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตาม ปีต่อมาเขาก็ข้ามรุ่นไปคว้าแชมป์จูเนียร์ฟลายเวตเวทีราชดำเนินที่ว่างมาครองได้อีกเส้นด้วยการชนะ </span></span><span style="font-family:arial;">KO<span lang="TH">7 จักรราช ยุทธกิจ มื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2536 จากนั้นก็ป้องกันแชมป์ไว้ได้ 1 ครั้งก่อนจะได้โอกาสลดรุ่นมาชิงแชมป์ฟลายเวต </span>IBF Intercontinental <span lang="TH">เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2537 เอาชนะเจ้าของตำแหน่งชาวอินโดนีเซีย แอบดี้ โปฮัง ได้ครองแชมป์ระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก แต่เจ้าเล็กก็ครองแชมป์ได้แค่ไม่ถึง 3 เดือนก็บินไปเสียแชมป์คืนให้กับโปฮังที่เมืองสุราบายาด้วยการแพ้คะแนนทางเทคนิคในยกที่ 4 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมปีเดียวกัน</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">เจ้าเล็กกลับมาอุ่นเครื่อง 1 ครั้ง ก็ได้โอกาสชิงแชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต </span></span><span style="font-family:arial;">IBF Intercontinental <span lang="TH">ที่ว่างเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2538 และก็เป็นฝ่ายเอาชนะ </span>TKO10 <span lang="TH">ปิรุส บอย ได้คาดเข็มขัดโก้อีกครั้ง อย่างก็ตามเพียงการป้องกันแชมป์หนแรกเจ้าเล็กก็หอบเข็มขัดไปทิ้งที่สุราบายาอีกครั้งด้วยการแพ้คะแนน 12 ยก ริคกี้ มาตูเลสซี่ย์ นักชกเจ้าถิ่นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมปีเดียวกัน</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">เจ้าเล็กกลับมาอุ่นเครื่องชนะรวด 18 ครั้งก็ได้รับเทียบเชิญให้ไปบินชิงแชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต </span></span><span style="font-family:arial;">IBF <span lang="TH">ที่ว่างกับนักชกผู้ร้อนแรงในขณะนั้นอย่าง มาร์ค "ทู ชาร์ป" จอห์นสัน และเจ้าเล็กก็สู้กับจอห์นสันได้ดีเกินคาด และแพ้ไปเพียงคะแนนขาดลอยเท่านั้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2542 เจ้าเล็กยังไม่ท้อกลับมาชกชนะ 4 ครั้งรวดก็ได้เทียบเชิญไปชิงแชมป์ </span>WBC International <span lang="TH">รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตกับเจ้าของตำแหน่งที่เป็นอดีตแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต </span>WBC </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">อย่าง เกอร์รี่ย์ พีญาโลซ่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2543 และตามข่าวแจ้งว่าเจ้าเล็กเป็นฝ่ายทำคะแนนนำมาก่อน แต่ติดเล่นทำการ์ดตกเลยโดนสวนตูมเดียวหลับกลางอากาศแพ้น็อคไปในยกที่ 6 ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย<br /><br />รัตนชัยกลับมาชกกับดาวรุ่งดวงใหม่ ยอดดำรงค์ สิงห์วังชา และแพ้คะแนน 10 ยกทำท่าจะกู่ไม่กลับ แต่ไฟต์ต่อมาก็ไปเอาชนะทีเคโอ อกุส เอกาจาย่า นักชกอิเหนาคาบ้านในยกที่ 2 กู้ชื่อคืนมาได้ และก็ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต </span>WBO Asia-Pacific <span lang="TH">ที่ว่างกับ แดงเกอร์ พาราซิบู เมื่อ 13 สิงหาคม 2544 และก็เป็นฝ่ายชนะน็อคไปในยกที่ 7 คว้าแชมป์สำเร็จ อย่างไรก็ตามเจ้าเล็กมีโอกาสครองแชมป์อยู่ได้ไม่กี่วันก็มีอันต้องถูกปลดเพราะทางผู้จัดเบี้ยวค่าแซงก์ชั่นกับทางสถาบัน แต่เจ้าเล็กก็ยังสร้างชื่ออีกครั้งด้วยการบินไปเอาชนะคะแนนแบบเสียงข้างมาก 10 ยก เหนือต่อยอดมวย แดนนี่ "คิด ไดนาไมท์" โรเมโร่ ถึงสังเวียน เมดิสัน แสควร์ การ์เด้น</span>,<span lang="TH"> นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2544</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">และจากชัยชนะในไฟต์นี้เอง เจ้าเล็กก็ได้รับการคัดเลือกให้ไปชิงแชมป์แบนตั้มเวต </span></span><span style="font-family:arial;">IBF <span lang="TH">กับ ทิม ออสติน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมปีเดียวกัน ในไฟต์นี้แม้ว่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คะแนนเอกฉันท์ แต่เจ้าเล็กก็ยังชกได้สนุกถูกใจอเมริกันชนอีกครั้ง จึงยังได้รับการสร้างสรรค์ต่อเนื่องโดยขึ้นชก 5 ครั้งชนะ 4 แพ้ 1 ซึ่งการแพ้นั้นเป็นการแพ้คะแนน 10 ยก คริส จอห์น ดาวรุ่งอินโดนีเซียถึงถิ่น ซึ่งต่อมาจอห์นก็ได้ครองแชมป์เฟเธอร์เวต </span>WBA</span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH"> ในอีกไม่นานนัก<br /><br />เจ้าเล็กได้โอกาสอีกครั้งจากต้นสังกัดใหม่ "ก่อเกียรติ กรุ๊ป" ให้ขึ้นชิงแชมป์แบนตั้มเวต </span>WBO Asia-Pacific <span lang="TH">ที่ว่างกับ กัน ตินูล่าร์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2546 และเจ้าเล็กก็อาศัยความโหดให้ทุบคู่ชิงชาวอิเหนาแพ้ </span>TKO <span lang="TH">ไปในยกที่ 3 ได้เป็นแชมป์ภายใต้ร่มเงาของ </span>WBO <span lang="TH">อีกครั้ง และคราวนี้เจ้าเล็กขึ้นชก 7 ครั้งชนะรวด แถมเป็นการป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ถึง 5 ครั้ง อันดับโลกจึงพุ่งขึ้นสูงสุดอย่างรวดเร็ว และโอกาสทองก็มาถึงเมื่อทางต้นสังกัดตัดสินใจส่งขึ้นชิงแชมป์แบนตั้มเวต </span>WBO <span lang="TH">ของจริงกับเจ้าของตำแหน่งชาวเม็กซิกัน ครู๊ซ "ชูโช่" คาร์บาฮาล และเจ้าเล็กก็อาศัยความหนักต่อยเอาเจ้าของตำแหน่งลงไปคลุกฝุ่นในยกที่ 5 ก่อนที่ตัวเองจะหมดแรงถูกยำเกือบไปไม่รอดในยกที่ 8 แต่เจ้าเล็กหันกลับมาใช้จังหวะฝีมือทำคะแนนจนเข้าไปชนะไปในที่สุด 116-111</span>, <span lang="TH">116-110</span>,<span lang="TH"> และ 118-109 กลายเป็นแชมป์โลก </span>WBO <span lang="TH">คนแรกของไทยไปอย่างสวยงามเมื่อ 7 พฤษภาคม 2547</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตามรัตนชัยได้ขึ้นอุ่นเครื่องถึง 7 ครั้ง จึงได้ขึ้นป้องกันตำแหน่งครั้งแรกซึ่งเป็นไฟต์บังคับกับแชมป์</span></span><span style="font-family:arial;"> WBO Latino <span lang="TH">เมาริโอ มาติเนซ ชาวปานามา ที่เคยครองเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่รัตนชัยครองอยู่นี้มาก่อนด้วย ในวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ที่ภูเก็ต ซึ่งเจ้าเล็กยังชกสไตล์ขี้เล่นจนถูกต่อยเอาเกือบหล่นหลายครั้ง แต่ก็ยังอุตส่าห์เอาชนะคะแนนไปเต็มกลืน 116-112</span>, <span lang="TH">116-112</span>,<span lang="TH"> และ 114-114 ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ </span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">แต่ล่าสุดเจ้าเล็กก็พลาดท่าพ่ายน็อค จอห์นนี่ กอนซาเลซ แชมป์ </span></span><span style="font-family:arial;">NABO <span lang="TH">ชาวเม็กซิกันรองแชมป์อันดับ 1 คนใหม่ไปอย่างบอบช้ำ ชนิดตัวเองร่วง 3 นับ ก่อนถูกจับ </span>TKO <span lang="TH">ไปในยกที่ 7 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2548 ตามเวลาในอาริซ่า</span>, </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">สหรัฐอเมริกา เสียแชมป์โลกไปอย่างบอบช้ำ<br /><br />อย่างไรก็ตามในปี 2549 นี้รัตนชัยกลับมาอุ่นหมัดชนะน็อคไปแล้ว 2 ครั้ง และทำท่าว่าจะได้ชิงแชมป์เส้นเดิมของตัวเองคืนอีกครั้ง เมื่อกอนซาเลสละตำแหน่งข้ามรุ่นไปชกพิกัด 122 ปอนด์<br /><br />แต่ล่าสุดรัตนชัยก็กลับมาครองแชมป์ </span>WBO Asia-Pacific<span lang="th"> รุ่น 118 ปอนด์ ที่ว่างได้เป็นสมัยที่ 2 เมื่อเอาชนะ </span>TKO4 <span lang="th">จอห์นนี่ เลียร์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2549 จานั้นก็ขึ้นอุ่นเครื่องชนะไปแล้ว </span>4<span lang="th"> ครั้งรวด</span> ก่อนที่จะได้โอกาส</span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">ชิงแชมป์โลกของตัวเองคืนจากเจ้าของแชมป์คนปัจจุบัน เกอร์รี่ย์ พีญาโลซ่า ในวันที่ 6 เมษายน 2551 ที่กรุงมะนิลา แต่รัตนชัยก็สู้ไหม่ไว้ ถูกยำพ่าย TKO8 อย่างบอบช้ำ<br /><br />รัตนชัยกลับมาอุ่นเครื่องชนะ 1 ครั้ง และกำลังจะเดินทางไปชิงแชมป์ WBO Oriental รุ่นแบนตั้มเวตจาก ไมเคิล โดมิงโก้ แชมป์ชาวฟิลิปปินส์ ในวันที1 14 กันยายน 2551 นี้<br /><br /></span>(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจาก นสพ.มวยสยามรายวัน ฉบับวันที่ 8 พฤษภาคม 2547</span>)</span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-1173019142289867232008-08-31T14:47:00.000+07:002008-08-31T15:08:17.092+07:00ยอดสนั่น ศิษย์ยอดธง<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/yodSanan.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><br /><b><span style="font-family:arial;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย</span><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span> </span><span style="color:#000000;">ยอดสนั่น ศิษย์ยอดธง</span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;">ธีระ พงษ์วัน</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-family:arial;"> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">1</span>2 สิงหาคม 2513</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;">จ. ศรีสะเกษ</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;">56-3-1<span lang="en-us">; 45</span></span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">KO</span><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">เกียรติยศ</span></span><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต </span></span></b><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us"><b>PABA (2541-2545)<br /></b></span><b>แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต </b><span lang="en-us"><b>W</b></span><b><span lang="en-us">BA (2545-</span>2548<span lang="en-us">)</span></b></span></span><b><span style="color:#0000ff;"><br /></span></b><p><span style="color:#0000ff;"><span lang="TH"><span style="color:#000000;"><br /><span style="font-family:arial;">นักมวยจากจังหวัดศรีสะเกษอย่างยอดสนั่นก็เช่นเดียวกับนักมวยไทยทั่วไป เคยชกมวยไทยมาก่อน ก่อนจะบ่มเชิงชกเป็นมวยสากลแท้ๆ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วถูกฟูมฟักที่ค่ายศิษย์ยอดธงของ "ครูตุ๊ย" ยอดธง เสนานันท์ สร้างเสริมในระดับนานาชาติโดย ทรงชัย รัตนสุบรรณ มาแต่อ้อนแต่ออก<br /><br />ครั้งเมื่อยังไต่เต้าสู่บัลลังก์แชมป์โลก โปรโมเตอร์ทรงชัยจัดชกกับนักมวยชาติใด ยอดสนั่นก็ตะบันคู่ชกชักกว่า 20 ราย มีรอดครบยกอยู่เพียงรายสองรายเท่านั้น ความรุนแรงของกำปั้นเข้าตานายกว้าง รอบคอบ อดีตอธิบดีกรมพลศึกษา-สามัญศึกษา จึงตั้งฉายาให้เป็น "ไมค์ ไทสัน เมืองไทย" เสริมกำลังใจกันหมายให้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับอดีตแชมป์โลกหมัดหนักคนนั้น</span></span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;color:#000000;">ยอดสนั่นเป็นนักชกประเภทหมัดหนักชนิด</span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"> "<span lang="TH">ขวาตาย ซ้ายสลบ</span>" <span lang="TH">ชั้นเชิงไม่ค่อยสวยงาม อาศัยพลังหมัดน็อคคู่ต่อสู้มาโดยตลอด เขาได้แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต </span>PABA <span lang="TH">ที่ว่างมาครองได้ด้วยการชนะคะแนนแบบไม่สวยนักเหนือต่อนักชกมองโกเลีย สุกรีย์ </span>“<span lang="TH">ซุคห์บาย่าร์</span>”</span><span lang="TH"><span style="font-family:arial;color:#000000;"> เนเม็คบาย่าร์ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2541 จากนั้นป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 19 ครั้ง รวมทั้งเสมอกับคู่ปรับเก่าอย่างเนเม็คบาย่าร์ครั้งหนึ่งด้วย<br /><br /></span></span><span lang="TH"><span style="font-family:arial;color:#000000;">อย่างไรก็ตามในไฟต์ที่ขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต</span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"> WBA <span lang="TH">ที่ว่างเพราะ อเซลิญโญ่ ไฟรตัส ถูกเลื่อนชั้นเป็นซูเปอร์แชมป์กับนักชกมองโกเลียอดีตแชมป์คนก่อนอย่าง ลัควา ซิม ยอดสนั่นต้องใช้ฝีมือดักทำคะแนนได้งามจะแจ้งจนครบ</span> 12 <span lang="TH">ยก และได้ครองแชมป์ไปชนิดประทับใจคนดูทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2545 เขาป้องกันกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 2 </span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ครั้ง ก่อนจะกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นนี้แต่เพียงผู้เดียวภายหลังไฟรตัสเลื่อนรุ่นไปแล้ว<br /><br />เมื่อเป็นแชมป์โลกแล้วมีรายการชกน้อยนิดได้แต่อุ่นเครื่องธรรมดาๆ 3 ไฟต์ จึงมีเรื่องผิดใจกันระหว่างผู้จัดการ "ครูตุ๊ย" มีลูกศิษย์ลูกหาในอเมริกาสามารถหารายการชกให้ได้ จึงเข้าปรึกษากับ ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ผู้จัดการร่วมอีกคน นำยอดสนั่นไปเซ็นสัญญาให้ อาร์ต เพลูโญ่ แห่ง "แบนเนอร์ โปรโมชั่นส์" ของสหรัฐอเมริกาจัดป้องกันแชมป์โลก 4 ครั้ง ลดบทบาทของทรงชัยไปทันที และไปป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 3 ชนะคะแนน สตีฟ ฟอร์บส์ ที่อเมริกามาแล้ว</span> 1 </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ไฟต์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2547 ยอดสนั่นกลับไม่มีรายการชกป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 ตามพันธสัญญา ไม่มีแม้แต่รายการชกอุ่นเครื่อง<br /><br />ถ้าเป็นสมัยก่อน แชมป์โลกที่มีรายการชกป้องกันตำแหน่งปีละครั้งอย่าง ยอดสนั่น สามเคแบตเตอรี่ แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวตสมาคมมวยโลก คงต้องถูกเรียกว่า</span> "<span lang="TH">แชมป์โลกอาภัพ</span>" <span lang="TH">กันไปแล้ว เพราะตั้งแต่ได้แชมป์โลกโดยการชนะคะแนน ลัควา ซิม จอมทรหดจากมองโกเลียที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันมหาสงกรานต์ ปี</span> 2545 <span lang="TH">แล้ว ยอดสนั่นได้ชกป้องกันตำแหน่งเพียง</span> 3 </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ครั้งเท่านั้น ต่างจากแชมป์โลกร่วมยุคชาติเดียวกันคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ยอดสนั่นยังต้องพิสูจน์ตัวตนให้สมกับฉายาในสายตาแฟนมวยทั่วโลกต่อไป<br /><br />ต่อมายอดสนั่นแพ้คะแนนเสียแชมป์ให้กับ บิซองเต้ มอสเกวร่า นักชกปานามาไปแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 48 หรือตรงกับเช้าวันที่ 1 พ.ค. 48 ตามเวลาประเทศไทย ที่เอ็มจีเอ็มแกรนด์</span>,<span lang="TH"> ลาสเวกัส ชนิดที่ถูกนับในยกที่ 1</span>, <span lang="TH">3</span>,<span lang="TH"> และ 11 ได้ตัวเองได้คืนนับเดียวในยกที่ 3 หลังจากนั้นกลับมาชกอุ่นเครื่องที่เมืองไทยชนะคะแนน 6 ยกนักชกฟิลิปปินส์ 2 ไฟต์แล้ว และรอเวลาขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้ง อย่างไรก็ดียอดสนั่นใช้เวลาว่างในช่วงนี้เป็นทั้งผู้ช่วยเทรนเนอร์และพี่เลี้ยงของ พรสวรรค์ กระทิงแดงยิม แชมป์มินิมั่มเวต </span>PABA <span lang="TH">และรองแชมป์อันดับสูงของ </span>WBA</span></span><span lang="th"><br /><br /><span style="font-family:arial;color:#000000;">ล่าสุด ยอดสนั่นได้ย้ายมาชกในสังกัด เพชรยินดี บ๊อกซิ่ง โปรโมชั่นส์ แล เอเซีย บ๊อกซ์ โปรโมชั่นส์ แล้ว และขึ้นชกชนะรวด 6 ครั้งด้วยกัน และตั้งเป้าว่าจะขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นที่ 2 ในเร็วๆนี้</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;color:#000000;">(เรียบเรียงเพิ่มเติมจากบทความ ""ไมค์ ไทสันเมืองไทย" ยอดสนั่น สามเคแบตเตอรี่ย์" คอลัมน์ ฉายาชาวยุทธ โดย สว่าง สวางควัฒน์ นสพ</span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;">.<span lang="TH">ข่าวสด ฉบับที่ 5179</span> <span lang="TH">ปีที่ 14 วันที่ 2</span> <span lang="TH">กุมภาพันธ์</span> <span lang="TH">พ.ศ.2548 </span></span></span></span></p><p></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-75301130905066314762008-08-31T14:34:00.002+07:002008-08-31T14:41:36.816+07:00วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น<p align="center"><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><img height="338" src="http://boxingboy.webng.com/veeRaphol.jpg" width="225" border="2" /><br /><br /><b><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span><span style="color:#000000;">วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">ธ</span>ีระพล <span lang="th">สำ</span>ราญกลาง</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">1</span>6 พฤศจิกายน 2510</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-size:100%;color:#000000;">จ. สระบุรี</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-size:100%;color:#000000;">61-4-2<span lang="en-us">; 43</span><span lang="en-us">KO</span> </span></b><span lang="en-us"><b><br /></b></span><b><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">เกียรติยศ</span></span><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต </span></span></b><span style="color:#000000;"><span lang="en-us" style="font-size:100%;"><b>WBC International (</b></span><b><span style="font-size:100%;">2537-<span lang="en-us">2</span>538</span><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">)<br /></span>แชมป์แบนตั้มเวต </span></b><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><b>WBA (2538-2539)<br /></b></span><b>แชมป์แบนตั้มเวต <span lang="en-us">WBC (2541-</span>2548<span lang="en-us">)</span></b></span></span></span></p><p align="justify"><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Arial;"><span lang="TH"><br />วีระพล หรือชื่อจริง </span>"<span lang="TH">ธีระพล สำราญกลาง</span>" <span lang="TH">เจ้าของฉายา </span>"<span lang="TH">พระกาฬหน้าขรึม</span>"<span lang="TH"> ผู้นี้ เป็นหนึ่งในยอดมวยสองแบบที่มีคะแนนนิยมต่อเนื่องมายาวนานตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา</span> !!.<span lang="TH"><br /><br />ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่ชกมวยไทยในนาม</span>"<span lang="TH">วีระพล สหพรหม</span>" <span lang="TH">เขาก็โดดเด่นเป็นแชมเปี้ยน</span> 3 <span lang="TH">รุ่นของเวทีราชดำเนิน<br /><br />เป็นคนแรกที่ทำให้ </span>"<span lang="TH">แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์</span>" (<span lang="TH">แซมซั่น ดัชบอยยิมส์</span>) <span lang="TH">รู้ซึ้งว่าการถูกน็อกเอ๊าต์มันเป็นยังไง เช่นเดียวกับที่ตัววีระพลเองก็ถูกแสนเมืองน้อย </span>"<span lang="TH">เอาคืน</span>"<span lang="TH"> ในลักษณะเดียวกัน</span>..<span lang="TH">ผลัดกันน็อกคนละครั้ง เมื่อสลัดแองเกิ้ลหันไปสวมรองเท้าชกสากลในการจัดการของ </span>"<span lang="TH">เสี่ยฮุย</span>"<span lang="TH"> สุชาติ พิสิฐวุฒินันท์ แห่ง </span>"<span lang="TH">นครหลวงโปรโมชั่น</span>"<span lang="TH"> อันมี มนต์สวรรค์ แหลมฟ้าผ่า เป็นเทรนเนอร์ วีระพล</span>-<span lang="TH">คนหน้าขรึมก็พัฒนาฝีมือไปได้อย่างราบรื่นน่าชื่นชม<br /><br />วีระพลขึ้นชกครั้งแรกก็ได้ชิงแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต</span> WBC International <span lang="TH">ที่ว่างอยู่เลยกับ โจเอล จูนิโอ จากฟิลิปปินส์ ซึ่งเขาก็ชิงแชมป์ได้สำเร็จง่ายดายด้วยการชนะน็อคเพียงแค่ยก</span> 3 <span lang="TH">เท่านั้น และหลังจากป้องกันได้</span> 1 <span lang="TH">ไฟต์กับอุ่นเครื่อง</span> 1 <span lang="TH">ไฟต์ วีระพลก็ขึ้นชิงแชมป์แบนตั้มเวต</span> WBA <span lang="TH">กับ ดาวรุ่ง ช</span>.<span lang="TH">ศิริวัฒน์ แชมป์โลกชาวไทยด้วยกันที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อ</span> 17 <span lang="TH">กันยายน</span> 2538 <span lang="TH">และเขาก็สามารถเอาชนะคะแนนดาวรุ่งในแบบไม่เป็นเอกฉันท์กลายเป็นแชมป์โลกสถาบันหลักที่มีสถิติชกเพียง</span> 4 <span lang="TH">ครั้ง ซึ่งน้อยที่สุดในโลกเป็นอันดับ</span> 2 <span lang="TH">รองจาก แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ เพียงคนดียวเท่านั้น</span> (<span lang="TH">แสนศักดิ์ได้แชมป์โลกในการชกอาชีพไฟต์ที่</span> 3)<span lang="TH"><br /><br />แต่แค่ป้องกันครั้งแรกวีระพลก็เสียตำแหน่งไปง่ายดายโดยถูกหมัดบวกขอผู้ท้าชิงชาวกาน่า นานา ยอว์ คอนาดู ร่วงลงไปกับพื้นเวทีในยกที่</span> 2 <span lang="TH">แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ทำให้วีระพลรีบลุกขึ้นมาเร็วจึงทำให้ฟื้นไม่ทันและเป็นเหตุให้พ่ายน็อคไปในยกที่</span> 2 <span lang="TH">นี้เอง</span> <span lang="TH"><br /><br />แต่วีระพลก็กลับชกทำฟอร์มอีก</span> 10 <span lang="TH">กว่าครั้งโดยใช้เวลาเพาะบารมีอยู่ร่วม</span> 3 <span lang="TH">ปี ก็ได้โอกาสไปชิงแชมป์แบนตั้มเวต</span> WBC <span lang="TH">กับ โจอิชิโร่ ซึโยชิ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งวีระพลก็ถล่มเอาขวัญใจชาวอาทิตย์อุทัยแพ้น็อคไปในยกที่</span> 6 <span lang="TH">กลายเป็นแชมป์โลกอีกครั้งอย่างงดงามเมื่อ</span> 29 <span lang="TH">ธันวาคม</span> 2541<span lang="TH"><br /><br />เขาป้องกันตำแหน่งทั้งในและนอกประเทศเอาไว้ได้ถึง</span> 14 <span lang="TH">ครั้งแล้ว และกำลังทำสถิติป้องกันตำแหน่งมากขึ้นเรื่อยๆ</span> <span lang="TH"><br /><br />สำหรับฉายาของวีระพลนั้น ได้มาจากบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนเงียบๆ แต่เฉียบคมด้วยฝีมือ รู้หน้าที่ของตัวเอง มีวินัยเคร่งครัด เป็นที่รักและไว้วางใจของผู้เกี่ยวข้องทุกคน ประกอบกับมีผิวกายดำคล้ำ เข้าลักษณะ</span> "<span lang="TH">พระกาฬ</span>"<span lang="TH">อย่างลงตัว</span> (<span lang="TH">กาฬหมายถึง</span> "<span lang="TH">ดำ</span>")<span lang="TH"><br /><br />จึงมีฉายาว่า </span>"<span lang="TH">พระกาฬหน้าขรึม</span>"<span lang="TH"> ตลอดมา</span> !!<span lang="TH"><br /><br />แต่มักถูกเรียกเพี้ยนเป็น </span>"<span lang="TH">พยัคฆ์หน้าขรึม</span>"<span lang="TH"> เทรนด์เดียวกับ </span>"<span lang="TH">พยัคฆ์หน้าหยก</span>"<span lang="TH"> ฉายาของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ไปนั่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม</span>?<span lang="TH"><br /><br />ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น วัยกว่า</span> 30 <span lang="TH">ปี ได้รับยกย่องเป็น </span>"<span lang="TH">นักกีฬาอาชีพดีเด่น</span>"<span lang="TH"> ของการกีฬาแห่งประเทศไทยถึง</span> 4 <span lang="TH">สมัยติดต่อกัน<br /><br />ต่อมาวีระพลพลาดท่าเสียแชมป์แบนตั้มเวต</span> WBC <span lang="TH">ให้กับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น โฮซูมิ ฮาเซกาว่า ด้วยการแพ้คะแนนเอกฉันท์</span> 115-112, 115-113, <span lang="TH">และ</span> 116-113 <span lang="TH">ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่</span> 16 <span lang="TH">เม</span>.<span lang="TH">ย</span>. 48 <span lang="TH">รวมป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ทั้งสิ้น</span> 14 <span lang="TH">ครั้ง อย่างไรก็ตามเขายังกลับมาอุ่นเครื่องต่อไปเพื่อหวังจะชิงตำแหน่งคืนในอนาคตข้างหน้า<br /><br />และวีระพลก็ได้คิวชิงแชมป์โลกแก้มือกับฮาเซกาว่าวันที่ 25 มีนาคม 2549 ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น แต่พลาดท่าพ่ายน็อคไปในยกที่ 9 ทั้งๆที่เริ่มแรงขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว<br /><br />อย่างไรก็ตามวีระพลยังไม่เลิกมวยง่ายๆ เขากลับมาอุ่นเครื่องอีก 7 ไฟต์ชนะรวด ก่อนที่จะได้ขึ้นชิงแชมป์แบนตั้มเวต </span>ABCO <span lang="th">ที่ว่างอยู่ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2550 และเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน ริชาร์ด ลาเอโน่ คู่ชิงจากฟิลิปปินส์ไปได้สำเร็จ คว้าแชมป์ไปครอง<br /><br />ล่าสุดวีระพลชกตัดเชือกเพื่อที่จะกลับไปชิงแชมป์โลก </span>WBC <span lang="th">อีกครั้ง กับนักชกแอฟริกาใต้นามว่า วูซี่ มาลิงก้า แต่ก็สู้ความหนุ่มสดของมวยตัวดำๆไม้ได ถูกถล่มพ่ายน็อคไปในยกที่ 4 จนต้องประกาศแขวนนวมและหันไปเป็นเทรนเนอร์ของค่ายต่อไป<br /></span><span lang="TH"><br /></span>(<span lang="TH">เรียบเรียงเพิ่มเติมจากเรื่อง "ฉายา </span>"<span lang="TH">พระกาฬหน้าขรึม</span>" <span lang="TH">วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น" </span><span lang="TH">คอลัมน์ ฉายาชาวยุทธ์ โดย สว่าง สวางควัฒน์ นสพ.ข่าวสด ฉบับที่</span> 5158 <span lang="TH">วันที่</span> 12 <span lang="TH">มกราคม</span> <span lang="TH">พ</span>.<span lang="TH">ศ</span>. 2548 <span lang="TH">ปีที่</span> 14, <span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารโลกกำปั้น</span>)</span></span></span></span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-85961811663183459172008-08-31T14:23:00.001+07:002008-08-31T14:34:34.453+07:00วันดี สิงห์วังชา<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/wanDee.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:85%;"><br /><b><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span><span style="color:#000000;">วันดี สิงห์วังชา</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">อ</span>้อน ดูวิเศษ</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;">5 กุมภาพันธ์<span lang="en-us"> </span>2523</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;">จ. อุดรธานี</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">56<span style="color:#000000;">-9-<span lang="en-us">1; 12</span><span lang="en-us">KO</span></span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span></span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;font-size:100%;">แชมป์มินิฟลายเวต </span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">IBF Intercontinental (2539-2541)<br /></span>แชมป์มินิมั่มเวตเฉพาะกาล </span></span></span></b><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><b>WBC (2541-2542)<br /></b></span><b>แชมป์มินิมั่มเวต </b></span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><b>WBC (2542-2543)<br /></b></span><b>แชมป์ไลต์ฟลายเวต </b><span lang="en-us"><b>WBC International (2547-</b></span></span></span><b><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="th">2549</span>)<br />แชมป์ไลต์ฟลายเวต<span lang="th">เฉพาะกาล</span> <span lang="en-us">WBC (254</span><span lang="th">9</span>)<br />แชมป์ฟลายเวต A<span lang="en-us">BCO (2550-</span><span lang="th">ปัจจุบัน</span>)</span></span></b></span></span><b><span style="color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="color:#0000ff;"></span><p><span style="font-family:arial;"></span></p><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH"><br />วันดีขึ้นชกมวยสากลอาชีพตั้งแต่ปี 2537 มีแพ้อยู่ครั้งเดียวในรอบ 3 ปี นอกนั้นคว้าชัยกราวรูด เขาขึ้นชิงแชมป์เส้นแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2539 เอาชนะคะแนน 12 ยก โรแลนโด้ โทโยกอน จากฟิลิปปินส์ ได้ครองแชมป์ </span>IBF Intercontinental <span lang="TH">รุ่นมินิฟลายเวตเป็นตำแหน่งแรก จากนั้นขึ้นอุ่นเครื่องชนะรวด 5 ไฟต์ด้วยกัน แต่แล้วในปีต่อมาเขาก็เดินทางไปพ่ายคะแนนให้กับคู่ปรับเก่า ไฟซอล อัคบาร์ เสียแชมป์ที่อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2540</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">วันดีกลับมาชกอุ่นเครื่องชนะครั้งเดียวก็สบโอกาสขึ้นชิงแชมป์สตรอว์เวต (ปัจจุบันเรียกมินิมั่มเวต) เฉพาะกาล</span></span><span style="font-family:arial;"> WBC <span lang="TH">ได้ด้วยการเอาชนะคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์เหนือต่อ ร็อคกี้ หลิน นักชกไต้หวันที่ญี่ปุ่นเอาไปสร้างได้ถึงแดนปลาดิบ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมปีต่อมา เขาป้องกันแชมป์ได้</span> 1 <span lang="TH">ครั้งก็ได้รับการสถาปนาให้เป็นแชมป์ตัวจริงเนื่องจาก ริคาร์โด้ โลเปซ แชมป์ชาวเม็กซิโกเลื่อนรุ่นไปเป็นแชมป์จูเนียร์ฟลายเวต</span> IBF <span lang="TH">แต่พอการป้องกันตำแหน่งครั้งแรก วันดีก็พ่ายคะแนน โฮเซ่ อันโตนิโอ อควิเร่ จากเม็กซิโกเสียแชมป์ไปคาบ้านแบบไม่เป็นเอกฉันท์ เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2543</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">วันดีกลับมาอุ่นเครื่องชนะ</span></span><span style="font-family:arial;"> 10 <span lang="TH">กว่าครั้งก็ต้องแพ้</span> 4 <span lang="TH">ครั้งรวด แบบที่ตัวเองไม่พร้อม โดยแพ้คะแนน ฮุสเซ็น ฮุสเซ็น ในการชกนอกรอบที่ออสเตรเลีย แพ้คะแนน</span> 12 <span lang="TH">ยก ปีเตอร์ คัลชอว์ ชิงแชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต</span> WBF <span lang="TH">ที่ว่างไม่สำเร็จที่อังกฤษ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2546 หลังจากนั้นก็แพ้</span> TKO 4 <span lang="TH">วิค ดาชิเนี่ยน ชิงแชมป์ฟลายเวต</span> IBF Pan Pacific <span lang="TH">ที่ว่างไม่สำเร็จที่ออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนปีเดียวกัน ก่อนจะกลับไปพ่ายน็อคยก </span>5 <span lang="TH">วิค ดาชิเนี่ยน อีกครั้งในไฟต์ที่ชิงตำแหน่งรองอันดับ</span> 1 <span lang="TH">รุ่นฟลายเวตของ</span> IBF</span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตาม วันดีกลับมาชกชนะ</span></span><span style="font-family:arial;"> 1 <span lang="TH">ครั้งและน็อค เออร์เนสโต้ รูบิญญ่าร์ ยก</span> 8 <span lang="TH">คว้าแชมป์ไลต์ฟลายเวต</span> WBC International <span lang="TH">ที่ว่างมาครองได้สำเร็จเมื่อวันที่</span> 9 <span lang="TH">กันยายน</span> 2547 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">จากนั้นป้องกันแชมป์ครั้งแรกเอาไว้ได้หืดจับ เมื่อทำได้แค่เสมอกับ จูน อาร์ลอส ผู้ท้าชิงลายครามจากฟิลิปปินส์ และยังอุ่นเครื่องอยู่เรื่อยๆเพื่อรอชิงแชมป์โลกอีกครั้ง<br /><br />ต่อมาวันดีได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวตเฉพาะกาล </span>WBC <span lang="th">ที่ว่างกับ ฆวนนิโต้ รูบิญญ่าร์ จูเนียร์ จากฟิลิปปินส์ เนื่องจากแชมป์โลกตัวจริง ไบรอั้น วิโลเรีย ได้รับบาดเจ็บ และ "เจ้าอ้อน" ก็เอาชนะคะแนนคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 แต่วันดีก็พลาดเสียแชมป์เพียงแค่ป้องกันตำแหน่งหนแรกด้วยการตกตาชั่งที่ประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามยังต้อนตือเอาชนะคะแนน มุเนซึกึ คาห์โยะ ไปได้ขาดลอย เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมปีเดียวกัน ก่อนจะกลับมาอุ่นเครื่องชนะไปแล้ว</span> 4 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">ครั้ง<br /><br />วันดีได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ฟลายเวต </span>ABCO </span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">ที่ว่างในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 และก็เอาชนะคะแนน เฟอร์นันโด้ ลูมาแคด นักชกฟิลิปปินส์ ได้ครองแชมป์สาขาย่อยไปสมความตั้งใจ แต่ครองอยู่ได้ไม่นานก็โดนประกาศิตของผู้จัดการให้สละตำแหน่งให้ทาง เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ชิงแชมป์ว่างแทนที่<br /><br />อย่างไรก็ตามวันดีขึ้นอุ่นเครื่องชนะอีก 1 ครั้ง ก็ได้โอกาสชิงแชมป์ฟลายเวต ABCO ที่ว่างอีกครั้ง เมื่อเด่นเก้าแสนสละตำแหน่งคืนให้ และวันดีก็เอาชนะทางนักชกอินโดนีเซีย โรแลนด์ ลาทูนี่ ไปในยกที่ 4 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 51 ได้เป็นแชมป์รอบ 2<br /><br />อย่างไรก็ตามวันดีได้ถูกเรียกไปอุ่นเครื่องกับ ทาคาชิ มาสึดะ ในวันที่ 11 สิงหาคม 51 แต่พลาดท่าพ่ายคะแนนอดีตแชมป์ไล๖ฟลายเวต OPBF ชาวญี่ปุ่นไปขาดลอย<br /><br /></span>(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก</span>)</span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-16510389205886801802008-08-28T18:54:00.003+07:002008-08-28T18:59:47.502+07:00ต่อศักดิ์ ศศิประภายิม<p align="center"><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><img height="338" src="http://boxingboy.webng.com/torSak.jpg" width="225" border="2" /><br /><b><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อนักมวย</span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span> </span><span style="color:#000000;">ต่อศักดิ์ ศศิประภายิม</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;">ต่อศักดิ์ ผ่องสุภา<br /></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span> <span style="color:#000000;">23 พ.ย. 2511</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;font-size:100%;">จ. กรุงเทพ</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="th">28</span>-3-</span></span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">0; 18KO</span><br /></span></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span></span></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;">แชมป์<span lang="th">ซูเปอร์ฟลายเวตฟลายเวต</span> <span lang="en-us">WBC International (</span>2532-2536)<br />แชมป์จูเนียร์เฟเธอร์เวต </span></b><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><b>WBF </b></span><b>(2539-2540)</b></span></span></span></span></p><p align="justify"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH"><br />ต่อศักดิ์เป็นลูกชายแท้ๆของ</span> "<span lang="TH">หมวดเจ้าน้ำตา</span>" <span lang="TH">ไฉน ผ่องสุภา แห่งค่ายโอสถสภา เขาเริ่มต้นชกมวยสมัครเล่นมาก่อนที่จะเทิร์นโปรชกมวยอาชีพ ต่อศักดิ์โชว์ฟอร์มชนะน็อครวด</span> 7 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนจะพลาดท่าพ่ายคะแนน</span> 10 <span lang="TH">ยกให้กับทาง ถนอมศักดิ์ ศิษย์โบ๊เบ๊</span> (<span lang="TH">ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น เถลิงศักดิ์ ศิษย์โบ๊เบ๊ และ เขาใหญ่ มหาสารคาม ก่อนที่จะได้ชิงแชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต</span> WBA 2 <span lang="TH">ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ แพ้คะแนนทั้ง</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง</span>) <span lang="TH">แต่เขาก็กลับมากู้ชื่อได้ในการชกไฟต์ต่อมา จากนั้นก็สบโอกาสขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวตฟลายเวต</span> WBC International <span lang="TH">ที่ว่างอยู่กับทาง ดาดอย อันดูจาร์ จากอินโดนีเซียทีเวทีลุมพินี เมื่อวันที่</span> 29 <span lang="TH">ธ</span>.<span lang="TH">ค</span>. 2532 <span lang="TH">แลเป็นฝ่ายเอาชนะน็อคในยกที่</span> 8 <span lang="TH">คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็ชกชนะรวดอีก</span> 7 <span lang="TH">ครั้ง เป็นการป้องกันตำแหน่ง</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง กับอุ่นเครื่อง</span> 5 <span lang="TH">ครั้ง ในจำนวนนั้นเขาเอาชนะคะแนน รอมมี่ นาวาร์เร็ตต้ แชมป์</span> OPBF <span lang="TH">รุ่นเดียวกันในการชกนอกรอบกำหนด</span> 10 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ยกได้ด้วย<br /><br />ต่อศักดิ์ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต</span> WBC <span lang="TH">ของจริงกับทาง</span> "<span lang="TH">ไอ้ผมม้า</span>" <span lang="TH">มูน ซัง กิล เมื่อวันที่</span> 22 <span lang="TH">ธันวาคม</span> 2534 <span lang="TH">ที่กรุงโซล แต่ก็ต้านแรงบุกของแชมป์เจ้าถิ่นไม่ไหวพ่าย</span> TKO <span lang="TH">ยก</span> 6 <span lang="TH">ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามเขากลับมาชกอีก</span> 6 <span lang="TH">ครั้ง เป็นการป้องกันแชมป์เงาที่ครองอยู่</span> 1 <span lang="TH">ครั้ง กับนอกรอบ</span> 5 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนจะพลาดท่าพ่ายน็อคยก</span> 8 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">เรย์นันเต้ จามิลี่ และได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งแชมป์เงาในเวลาต่อมา<br /><br />อย่างไรก็ตามต่อศักดิ์หยุดชกไปเกือบปีก็กลับมาชกชนะอีก</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง ก็ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์จูเนียร์เฟเธอร์เวต</span> WBF <span lang="TH">กับเจ้าของตำแหน่งชาวออสเตรเลีย โทนี่ เว็บบี้ย์</span> (<span lang="TH">ผู้พิชิต ฟ้าสั่ง สามเคแบตเตอร์รี่ย์ ในการชิงแชมป์ที่ว่าง</span>) <span lang="TH">เมื่อวันที่</span> 11 <span lang="TH">พ</span>.<span lang="TH">ค</span>. 2539 <span lang="TH">และต่อศักดิ์ก็เอาชนะคะแนน</span> 12 <span lang="TH">ยกได้เป็นแชมป์ดังใจนึก เขาป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง ก็หยุดชกแขวนนวมไปถึง</span> 2 <span lang="TH">ปีกว่าๆ จนแชมป์ถูกปลดไป ทั้งนี้เพราะสถาบัน</span> WBF <span lang="TH">ถูกบอยคอตจากโปรโมเตอร์ชาวไทยแล้วในเวลานั้น ต่อศักดิ์กลับมาชกอีกครั้งในปี</span> 2542 <span lang="TH">เอาชนะคะแนน คิด ซาร์รี่ย์ ไปได้ในกำนด</span> 10 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">ยก จากนั้นก็แขวนนวมถาวร หันไปประกอบธุรกิจนำมวยไทยไปชกยังต่างประเทศมาจนทุกวันนี้<br /><br /></span>(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากภาพขาวดำในคอลัมน์</span> "<span lang="TH">ย้อนตำนานแชมปโลกไทย</span>" <span lang="TH">นสพ</span>.<span lang="TH">มวยสยามรายวัน ฉบับที่</span> 4205 <span lang="TH">วันที่</span> 24 <span lang="TH">มีนาคม</span> 2548)</span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-80979476638009032142008-08-28T18:51:00.000+07:002008-08-28T18:54:25.834+07:00ยอดชิงชัย อัครเดชยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/yodchingchai.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:85%;"><br /></span><b><span style="color:#0000ff;"><span style="font-family:arial;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span></span><span lang="th"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">ยอดชิงชัย อัครเดชยิม</span><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><span style="font-family:arial;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;">เทียนชัย ข้อกิ่ง</span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><br /><span style="font-family:arial;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;">17 ธันวาคม 2519</span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><br /><span style="font-family:arial;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="th">โคกสำโรง</span><span lang="th">, ลพบุรี</span></span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /></span><br /><span style="font-family:arial;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="th">36</span>-<span lang="th">7</span>-<span lang="th">0</span><span lang="en-us">; </span><span lang="th">20</span></span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;color:#000000;">KO</span><span style="color:#0000ff;"><br /></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">เกียรติยศ</span><span lang="en-us" style="font-family:arial;">:<br /></span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;">แชมป์<span lang="th">ไลต์ฟลายเวต</span> <span lang="en-us">WBU (</span>253<span lang="th">8-2539</span>)</span></b></p><p><strong><span style="font-family:arial;"></span></strong></p><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH"><br />ยอดชิงชัยเดิมเป็นนักมวยที่ชกอุ่นเครื่องประกอบรายการมวยพื้นๆเท่านั้น แต่แล้ววาสนาก็ช่วยให้เขาได้ชิงแชมป์ฟลายเวต </span>WBU <span lang="TH">ที่ว่างอยู่กับคู่ปรับเก่าที่เคยผลัดกันแพ้ชนะมาคนละ ครั้ง อย่าง ลี เอสโคบิโด้ (ครั้งแรกยอดชิงชัยแพ้ </span>TKO6 <span lang="TH">ครั้งที่ 2 ชนะ </span>TKO6 <span lang="TH">เช่นกัน) โดยทั้งคู่ได้ชกกันที่เวทีห้องส่งช่อง 7 สีในวันที่ 5 สิงหาคม 2538 ประกอบรายการมวยชิงแชมป์โลก 5 </span>WBU <span lang="TH">คู่ และคราวนี้ยอดชิงชัยก็ย้ำแค้นได้อีกครั้ง โดยเป็นฝ่ายเอาชนะ </span>TKO6<span lang="TH">ไปได้อีกหน แต่ในปีถัดมาเขาก็เสียแชมป์เพียงแค่การป้องกันตำแหน่งครั้งแรก ด้วยการพ่าย </span>TKO11 <span lang="TH">แองเจล อัลมิน่า นักชกโดมินิกันไปแบบบอบช้ำ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2539 (ต่อมาอัลมิน่าเสียแชมป์ให้กับศรพิชัย) </span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">เขาขึ้นชกอีก 15 ครั้งแพ้เพียง 3 ไฟต์ให้กับคู่ปรับเก่า ลี เอสโคบิโด้ ;้ </span></span><span style="font-family:arial;">(TKO2) <span lang="TH">กับดาวรุ่งดวงใหม่ 2 รายอย่าง สมศักดิ์ สิงห์ชัชวาลย์ (</span>KO5<span lang="TH">) และ นภาพล เกียรติศักดิ์ โชคชัย </span>(KO5)<br /><br /></span><span lang="TH" style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตามหลังจากหยุดไปร่วม 2 ปี เขาก็บินไปเป็นคู่อุ่นหมัดให้นักชกญี่ปุ่น 2 ราย แล้วก็แพ้น็อครวดทั้ง 2 ครั้งก่อนแขวนนวมไปถาวร<br /><br />ล่าสุดมีข่าวว่าปัจจุบันนี้ยอดชิงชัยได้เดินทางไปปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยแต่งงานกับสาวเจ้าถิ่นและมีบุตรด้วยกัน 2 คน โดยตัวของเขาได้ทำงานในโรงงานทำกระเป๋าควบคู่ไปกับการเป็นครูมวยไทยอีกด้วย</span><br /><br /><span style="font-family:arial;">(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารโลกกำปั้น</span>)</span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-4389747386760867742008-08-28T18:48:00.000+07:002008-08-28T18:50:56.141+07:00สุรชัย แสงมรกต<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/suRachai.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:85%;"><br /></span><span style="font-family:Arial;"><span lang="en-us"><b><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย:</span> </b></span><span style="color:#000000;"><b><span lang="th">สุรชัย แสงมรกต</span></b></span><span lang="en-us"><b><br /><span style="color:#0000ff;"><br />ชื่อจริง: </span></b></span><span style="color:#000000;"><b>สุรชัย แลบัว</b></span><span lang="en-us"><b><br /><span style="color:#0000ff;"><br />วันเดือนปีเกิด: </span></b></span><span style="color:#000000;"><b>15 ก.ย. 2520</b></span><span lang="en-us"><b><br /><span style="color:#0000ff;"><br />ภูมิลำเนา:</span> </b></span><span style="color:#000000;"><b>จ. หนองบัวลำภู</b></span><span lang="en-us"><b><br /><span style="color:#0000ff;"><br />สถิติ:</span> </b></span><span style="color:#000000;"><b><span lang="en-us">2</span>5<span lang="en-us">-</span>6<span lang="en-us">-</span><span lang="th">1</span><span lang="en-us">; 1</span><span lang="th">4</span></b></span><span lang="en-us"><b><span style="color:#000000;">KO</span><br /><span style="color:#0000ff;"><br />เกียรติยศ:</span><br /></b></span><span style="color:#000000;"><b>แชมป์มินิฟลายเวตประเทศไทย (เวทีราชดำเนิน) (2537)<span lang="en-us"><br />แชมป์</span><span lang="th">เปเปอร์</span></b><span lang="en-us"><b>เวต WBU (</b></span><b>2538-2540</b></span><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><b>)</b></span></span></span></p><p><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><strong></strong></span></span></span></p><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Arial;"><span lang="TH"><br />สุรชัยสร้างสถิติชนะรวดในเชิงสากล</span> 7 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนจะได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์มินิฟลายเวตเวทีราชดำเนินที่ว่างและเอาชนะคะแนน</span> 10 <span lang="TH">ยก นกน้อย ส</span>.<span lang="TH">ธนิกุล ได้เป็นแชมป์เส้นแรกเมื่อวันที่</span> 20 <span lang="TH">เมษายน</span> 2537 <span lang="TH">และเขาก็ขึ้นอุ่นเครื่องชนะรวด</span> 3 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนที่จะโชคดีได้ไปชิงแชมป์สตรอว์เวต</span> (<span lang="TH">มินิมั่มเวต</span>) WBC <span lang="TH">กับ เม็กซิกันอันตราย ริคาร์โด้ โลเปซ นาวา ที่ลาสเวกัส แต่ก็ได้แค่ชิงเพราะบินไปถึงปุ๊บก็ขึ้นตาชั่งปั๊บ แล้วก็ชกเลยในวันถัดมาโดยไม่ได้ปรับสภาพร่างกาย ผลก็คือถูกโลเปซต่อยน็อคไปแค่</span> 1 <span lang="TH">นาที</span> 53 <span lang="TH">วินาทีของยกแรกเท่านั้นเมื่อวันที่</span> 17 <span lang="TH">กันยายนปีเดียวกันนั่นเอง<br /><br />ปีถัดมาสุรชัยยังโชคดีได้ไปชิงแชมป์ว่าง</span> OPBF <span lang="TH">รุ่นมินิฟลายเวตกับ นิโก้ โธมัส อดีตแชมป์มินิฟลายเวต</span> IBF <span lang="TH">แต่สุรชัยก็ทำได้เพียงแค่แพ้คะแนน</span> 12 <span lang="TH">ยกไปแบบคู่คี่ จนได้กลับไปชิงแชมป์กับโธมัสอีกครั้งและก็แพ้คะแนนไปเช่นเดิม อย่างไรก็ตามหลังกลับมาพักร่างกายแค่</span> 3 <span lang="TH">เดือน สุรชัยก็ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์เปเปอร์เวต</span> WBU <span lang="TH">ที่ว่างอยู่กับ เฟอร์นันโด้ มาติเนซ อดีตผู้ท้าชิงแชมป์มินิฟลายเวตและจูเนียร์ฟลายเวต</span> WBO <span lang="TH">ชาวเม็กซิกัน ที่เวทีมวยช่อง</span> 7 <span lang="TH">สีในศึกเปิดตัวชิงแชมป์</span> WBU <span lang="TH">สถาบันมวยโลกแห่งใหม่ในเมืองไทย ซึ่งมีการชิงแชมป์โลกมากถึง</span> 5 <span lang="TH">คู่ซ้อน และสุรชัยก็ถล่มมาติเนซพ่าย</span> TKO <span lang="TH">ไปในยกที่</span> 5 <span lang="TH">ได้ครองแชมป์ในวันที่ 5 สิงหาคม</span> 2538<span lang="TH"><br /><br />สุรชัยขึ้นป้องกันตำแหน่งครั้งแรกชนะ </span>KO<span lang="TH">2 โจโจ้ อิดาโน่ ไปอย่างง่ายดายในวันที่ </span>23 <span lang="TH">ธันวาคม</span> 2538<span lang="TH"> ก่อนจะขึ้นอุ่นเครื่องเพียงอย่างเดียวตลอดทั้งปี 2539 เพราะ </span>WBU <span lang="TH">เริ่มจะถูกลดทอนความสำคัญลงไปจากโปรโมเตอร์ชาวไทย พอขึ้นปี 2540 ก็ป้องกันตำแหน่งชนะ </span>KO5 <span lang="TH">อดีตแชมป์มินิฟลายเวตแอฟริกาใต้อย่าง ฟิลดิเล่ งีงี่ เมื่อวันที่ 18 มกราคม ก่อนที่จะพลาดท่าพ่ายคะแนน โรแลนโด้ โทโยกอน นักชกตากาล๊อก ที่จังหวัดอุดรธานีเสียแชมป์ไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน ในปีนั้นนั่นเอง โดยสุรชัยไม่มีโอกาสที่จะชิงแชมป์คืนอีกเลย เพราะทางเมืองไทยตัดขาดกับ </span>WBU <span lang="TH">ไปแล้วเรียบร้อย<br /><br />อย่างไรก็ตามสุรชัยยังคงขึ้นชกมวยอีก 3 ปี ซึ่งเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ 5 ครั้ง และแพ้ 2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายแพ้คะแนน 10 ยกให้กับ เชี่ยวชาญ ธนเศวต (บัวสุวรรณ) ในการชิงแชมป์จูเนียร์ฟลายเวตเวทีราชดำเนิน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2543 และจากนั้นก็ได้แขวนนวมไปในที่สุด<br /><br /></span>(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารโลกกำปั้น</span>)</span></span></p></span></span></span>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-20208591325177486052008-08-28T18:43:00.001+07:002008-08-28T18:48:02.805+07:00ยอดดำรงค์ สิงห์วังชา<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/yodDamrong.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /><b><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย</span><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span> </span><span style="color:#000000;">ยอดดำรงค์ สิงห์วังชา</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">ด</span>ำรงค์ คงสุข</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">1</span>6 มีนาคม 2520</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-size:100%;color:#000000;">จ. อุทัยธานี</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-size:100%;">4<span lang="th">5</span>-7-1<span lang="en-us">; </span><span lang="th">20</span><span lang="en-us">KO</span></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-size:100%;">เกียรติยศ</span></span><span lang="en-us"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span></span><span style="font-size:100%;color:#000000;">แชมป์แบนตั้มเวตประเทศไทย <span lang="th">(ราชดำเนิน) </span>(2541-2542)<br />แชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวตเฉพาะกาล </span></b><span style="color:#000000;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><b>PABA (2542-2544)<br /></b></span><b>แชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต </b><span lang="en-us"><b>PABA (254</b></span></span><b><span style="font-size:100%;">4<span lang="en-us">-254</span>5</span><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">)<br /></span>แชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต </span></b><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><b>WBA (2545)<br /></b></span><b>แชมป์เฟเธอร์เวตเฉพาะกาล </b><span lang="en-us"><b>PABA (2546)</b></span></span></span></span></p><p><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Arial;"><span lang="TH"><br />ยอดดำรงค์เป็นนักชกดาวรุ่งอีกคนหนึ่งที่ได้ครองแชมป์แบนตั้มเวตเวทีราชดำเนิน ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาชนะรวดมา 10 ไฟต์ซ้อน ก่อนที่จะชิงแชมป์ที่ว่างนี้ได้ด้วยการชนะคะแนน เลิศไทย ใหม่เมืองคอน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2541 จากนั้นก็ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ 3 ไฟต์ กับอุ่นเครื่องอีกหลายครั้ง ก่อนจะขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวตเฉพาะกาล </span>PABA <span lang="TH">เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2542 และสามารถเอาชนะคะแนน 12 ยก เฮร์รี่ย์ มากาวิมบัง จากอินโดนีเซีย คว้าแชมป์ไปครอง</span></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;"><br /><br />เขาป้องกันตำหน่งเอาไว้ได้ 3 ไฟต์ และอุ่นเครื่งออีกหลายครั้งก็ได้โอกาสบินไปชกหาแชมป์หนึ่งเดียวกับ บูลัน บูเกียร์โซ่ เจ้าของแชมป์ชวอิเหนาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2544 และก็เป็นฝ่ายเอาชนะ </span><span style="font-family:Arial;">KO6 <span lang="TH">คว้าแชมป์ตัวจริงมาได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งผลจากไฟต์นี้บูเกียร์โซ่ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการเลือดออกในสมองแต่ไม่รุนแรงจนถึงกับต้องผ่าตัดแต่อย่างใด<br /><br />ยอดดำรงค์ขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต</span> WBA <span lang="TH">มาครองได้ด้วยการชนะคะแนน 12 ยกอย่างเป็นเอกฉันท์เหนือต่อ โยเบอร์ ออร์เตก้า แชมป์จากเวเนซูเอล่าที่นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545 และเสียแชมป์ด้วยการแพ้</span> KO8 <span lang="TH">โอซามุ ซาโตะ ถึงแดนปลาดิบ ในวันที่ 18 พฤษภาคมปีเดียวกัน จัดได้เป็นแชมป์โลกที่มีอายุการครองตำแหน่งสั้นมากคนหนึ่ง ซึ่งรวมเวลาครองแชมป์เพียง</span> 87 <span lang="TH">วันเท่านั้น</span></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;"><br /><br />เขากลับมาภาคใหม่เลื่อนรุ่นไปชกพิกัดเฟเธอร์เวตอยู่ระยะหนึ่ง จนได้ครองแชมป์เฟเธอร์เวตเฉพาะกาล </span><span style="font-family:Arial;">PABA <span lang="TH">ด้วยการชนะคะแนน 12 ยก เหนือต่อ รุ </span>“<span lang="TH">4</span>K”<span lang="TH"> เคฟคัทเช่ นักชกฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2546 ก่อนจะป้องกันแชมป์ได้หนึ่งครั้งด้วยการชคะแนนเคฟคัทเช่อีกหน แต่เขาก็กลับมาชกในพิกัด</span> 122 <span lang="TH">ปอนด์ในเวลาต่อมา<br /><br />ยอดดำรงค์ที่รั้งเบอร์หนึ่งของรุ่นอีกครั้ง ขึ้นชิงแชมป์ไฟต์บังคับกับ มาห์ย่าร์ มงชิปูร์ ไปเมื่อวันที่</span> 9 <span lang="TH">พ</span>.<span lang="TH">ย</span>. 2547 <span lang="TH">แต่ก็แพ้ทีเคโอยก</span> 6 <span lang="TH">เท่านั้นแบบสู้กันไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขายังกลับมาอุ่นเครื่องชนะ 4 ครั้งรวดแล้วในปี</span> 2548 <span lang="TH">และรอเวลาชิงแชมป์โลกอีกสักครั้ง</span><span lang="th"><br /><br />ปีนี้ยอดดำรงค์บินไปชกที่ญี่ปุ่นแพ้คะแนน โชจิ คิมูระ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 49 แถมอีก 2 เดือนถัดมายังไปถูก ริว มิยากิ ถล่มลำตัวพ่าย </span>TKO <span lang="th">ไปในยกที่ 6 เมื่อ 11 มิถุนายน 2549 ทำท่าจะไม่รุ่งซะแล้ว</span> <span lang="th">แถมต่อมายังถูกนักชกรุ่นน้อง ชลธาร อ.พิริญะภิญโญ ถล่มแพ้คะแนนไปขาดลอยชิงแชมป์เฟเธอร์เวต </span>ABCO <span lang="th">ไม่สำเร็จ เมื่อ 25 กันยายนปีเดียวกันนั้นเอง<br /><br />ปี 2550 ยอดดำรงค์ขึ้นชก 2 ครั้ง แพ้รวด โดยเป็นการชิงแชมป์เส้นเดิมกับชลธาร แต่คราวนี้ถูกน็อคไปแค่ยกที่ 7 เท่านั้น เมื่อ 15 มิถุนายน 2550 ก่อนจะมาถูก ไท ต.ศิลาชัย ถล่มแพ้ </span><span lang="en-us">TKO5 </span>ไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั่นเอง<br /><br />(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากเว็บไซด์ต่างประเทศ</span>)</span></span></span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-49488644484945623252008-08-28T18:40:00.001+07:002008-08-28T18:43:43.059+07:00พิชิต ช.ศิริวัฒน์<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/piChitnoi.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><br /><b><span style="font-family:arial;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span><span style="color:#000000;">พิชิต ช.ศิริวัฒน์</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us">ส</span>มโภชน์<span lang="en-us"> </span>หาญวิชาชัย</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us">3</span>1 มกราคม 2518</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;">จ. ชัยภูมิ</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us">3</span>4-3-0<span lang="en-us">; 1</span>5</span></span></b><span lang="en-us"><b><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;">KO</span><br /></span></b></span><b><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">เกียรติยศ</span></span><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ไลต์ฟลายเวต </span></span></b><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="en-us"><b>PABA (2538-2539)<br /></b></span><b>แชมป์ไลต์ฟลายเวต </b><span lang="en-us"><b>WBA (2539-25</b></span><b>43<span lang="en-us">)</span></b></span></span></p><p><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span lang="TH"><br />พิชิตเดิมใช้ชื่อชกมวยว่า พิชิตน้อย ศิษย์บางพระจันทร์ เพราะเขาเป็นน้องชายของ พิชิต ศิษย์บางพระจันทร์ อดีตแชมป์ฟลายเวต</span> IBF <span lang="TH">ผู้ไม่เคยแพ้ใครนั่นเอง เขาขึ้นชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต</span> WBA <span lang="TH">ครั้งแรกกับยอดมวยจอมเก๋าจากเวเนซูเอล่า ราฟาเอล</span> "<span lang="TH">ลีโอ</span>" <span lang="TH">กาเมซ แต่พลาดท่าถูกน็อคในยกที่</span> 6 <span lang="TH">ทั้งๆที่ทำคะแนนนำมาสุดกู่ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2537</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นพิชิตก็ได้โอกาสขึ้นเป็นแชมป์</span></span><span style="font-family:arial;"> PABA <span lang="TH">รุ่นเดียวกันนี้ เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน 12 ยก อโปโลนาริส </span>“<span lang="TH">อาริส</span>”<span lang="TH"> เฮตูบัน นักชกอิเหนาไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2538 และป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 1 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนจะได้โอกาสทองชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต</span> WBA <span lang="TH">อีกครั้งกับแชมป์โลกคนใหม่ชาวญี่ปุ่น เคอิจิ ยามากูชิ ซึ่งในไฟต์นี้พิชิตชิงสวนหมัดโป้งปิดบัญชีส่งจอมลีลาจากแดนปลาดิบพ่าย</span> TKO 2 <span lang="TH">ไปอย่างง่ายดายได้เป็นแชมป์โลกสมใจ</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">พิชิตป้องกันตำแหน่งไว้ได้</span></span><span style="font-family:arial;"> 5 <span lang="TH">ครั้งก่อนจะถูกปลดเพราะไม่ได้ป้องกันตำแหน่งนานเกินไป เกือบ</span> 2 <span lang="TH">ปีต่อมาเขาได้ชิงแชมป์เส้นเดิมอีกครั้งกับ โรแซนโด้ อัลวาเรซ แชมป์จากนิการากัวแต่ก็พลาดแพ้</span> TKO 12 <span lang="TH">ไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2545</span></span><span lang="TH"><br /><br /><span style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตามเขายังสู้ต่อไป จนได้กลับมาเป็นรองแชมป์โลกอันดับสูง และได้ไปซ้อมมวยพร้อมเป็นเทรนเนอร์ให้กับค่าย</span></span><span style="font-family:arial;"> "<span lang="TH">อิโอกะ ยิม</span>" <span lang="TH">ของอดีตแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวต</span> WBC <span lang="TH">และไลต์ฟลายเวต</span> WBA <span lang="TH">ฮิโรกิ อิโอกะ ที่ญี่ปุ่น ก่อนจะขึ้นชกแพ้</span> TKO8 <span lang="TH">จุนอิชิ เอบิซูโอกะ ทั้งที่ได้นับก่อน</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง แต่หมดแรง เลยโดนนักชกญี่ปุ่นไล่ถลุงจนถูกนับ</span> 8 <span lang="TH">ในยกที่</span> 8 </span><span style="font-family:arial;"><span lang="TH">และถูกยำข้างเดียวจนกรรมการต้องแยกนับก่อนจะยุติการชกไปในที่สุด ซึ่งเชื่อกันว่าพิชิตไม่มีกำลังใจเพราะปัญหาส่วนตัวที่เมืองไทย<br /><br />ล่าสุดพิชิตได้ขึ้นชกอีกครั้งหลังเคลียร์ปัญหาทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อ 14 ต.ค. 50 และเอาชนะ ยูกิ มาราอิ นักชญี่ปุ่นไปได้ด้วยเสียงข้างมากในกำหนด 8 ยก พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น "พิชิต ไดเจ้น" ตามสปอนเซอร์แล้ว</span> </span><span lang="TH" style="font-family:arial;">อย่างไรก็ตามเขาได้เผยเมื่อครั้งกลับมาปีใหม่ที่เมืองไทยปี 2551 ว่า เขาขึ้นชกเล่นๆไม่ได้จริงจังอะไร และคาดว่าจะเก็บเงินทองอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกสัก 2 ปี ก่อนที่จะกลับมาบ้านเกิดต่อไป<br /><br />ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก</span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-83618061137785444672008-08-26T18:59:00.001+07:002008-08-26T19:01:47.665+07:00ศรพิชัย กระทิงแดงยิม<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/sornPhichai.jpg" width="233" border="2" /><b><font color="#0000ff" size="2"><br /></font></b><font face="Arial" size="2"><br /><b><font color="#0000ff">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></font><font color="#000000">ศรพิชัย กระทิงแดงยิม</font><span lang="en-us"><br /></span><font color="#0000ff"><br />ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </font><font color="#000000"><span lang="en-us">น</span>ิคม ชูบุญ</font><span lang="en-us"><br /><br /></span><font color="#0000ff">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></font> <font color="#000000">1 พฤษภาคม 2517</font><span lang="en-us"><br /></span><font color="#0000ff"><br />ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </font><font color="#000000">จ. กำแพงเพชร</font><span lang="en-us"><br /></span><font color="#0000ff"><br />สถิติ<span lang="en-us">:</span> </font><font color="#000000"><span lang="en-us">3</span>0-4-1</font></b><span lang="en-us"><b><font color="#000000">;19KO</font><br /></b></span><b><font color="#0000ff"><br />เกียรติยศ</font><span lang="en-us"><font color="#0000ff">:</font><br /></span><font color="#000000">แชมป์ฟลายเวต </font></b><font color="#000000"><span lang="en-us"><b>WBU (2539-2541)<br /></b></span><b>แชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต </b><span lang="en-us"><b>PABA (</b></span><b>2541-2542<span lang="en-us">)<br /></span>แชมป์ฟลายเวต <span lang="en-us">WBA (2542-254</span>3<span lang="en-us">)</span></b></font></font></p><p><font face="Arial" size="2"><font color="#000000"><span lang="en-us"><span style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Arial"><span lang="TH"><br />ศรพิชัยเป็นมวยหมัดหนักรายหนึ่งที่ต้องลงทุนสูงทุกครั้งที่ชก เขาขึ้นครองแชมป์ฟลายเวต</span> WBU <span lang="TH">โดยการเอาชนะคะแนนแชมป์เก่าชาวเปอร์โตริโก แองเจล อัลมิน่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2539 จากนั้นก็ขึ้นป้องกันตำแหน่งไว้ได้</span> 4 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนที่จะต้องชกนอกรอบอย่างเดียวเพราะทางไทยกำลังบอยคอต</span> WBU <span lang="TH">จนกระทั่งถูกปลดออกจากตำแหน่งไปในที่สุด<br /><br />อย่างไรก็ตามปีต่อมาเขาก็คว้าแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต</span> PABA <span lang="TH">มาครองได้ด้วยการชนะ </span>KO2 <span lang="TH">โซซิโม่ เดลกาโด้ นักชกจากฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2541 ก่อนจะได้ขึ้นชิงแชมป์ฟลายเวต</span> WBA <span lang="TH">ในวันที่ 3 กันายน 254</span>2 <span lang="TH">และเขาก็ต่อสู้กับ ราฟาเอล</span> "<span lang="TH">ลีโอ</span>" <span lang="TH">กาเมซ แชมป์ชาวเวเนซูเอล่าได้อย่างสนุกชนิดเจียนไปเจียนอยู่ด้วยกัน และในยกที่</span> 3 <span lang="TH">เขาก็ส่งกาเมซหงายหลังวัดพื้นถูกนับ</span> 8 <span lang="TH">เป็นครั้งแรก แต่หลังจากนนั้นกาเมซก็ฟื้นกลับมาคุมเกมการชกเอาไว้ได้และซัดเอาศรพิชัยเมาไปเมามา แต่แล้วในยกที่</span> 8 <span lang="TH">ขณะที่กาเมซกำลังไล่ยำศรพิชัยอยู่นั้น ศรพิชัยกัดฟันบวกหมัดซ้ายเต็มแรงส่งกาเมซหงายหลังเหยียดยาวถูกนับ</span> 10 <span lang="TH">ไปแบบพลิกปฐพี และยกนี้เองได้รับการยกย่องเป็น</span> "<span lang="TH">ยกยอดเยี่ยมแห่งปี</span>" <span lang="TH">จากหลายสำนักด้วยกัน<br /><br /></span></span><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Arial">อย่างไรก็ตามเขาป้องกันแชมป์ได้ครั้งเดียวก็ต้องเสียตำแหน่งให้กับยอดมวยชาวเปอร์โตริโก้ อีริค โมเรล ด้วยการแพ้คะแนนเป็นเอกฉันท์ที่ไมอามี่ สหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 สิงหาคม 2543<br /><br />ศรพิชัยพยายามกลับมาชกไต่อันดับอีกแต่ก็มีแพ้และเสมอแทรกอยู่อย่างละ</span><span style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Arial"> 1 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนที่</span> 2 <span lang="TH">ไฟต์ล่าสุดจะพลาดท่าพ่าย</span> TKO 2 <span lang="TH">มวยโนเนมจากคองโก มานูอี้ พาธีย์ คาบ้าน และออกไปพ่าย</span> TKO 9 <span lang="TH">จุน โทริอูมิ ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นปี</span> 2547 <span lang="TH">ก่อนจะแขวนนวมไปในที่สุด</span> <br /><br />(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก</span></span></span></font></font></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-35106388113649173052008-08-26T18:23:00.003+07:002008-08-26T18:58:43.799+07:00ศิริมงคล สิงห์วังชา<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/siRimongkol.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /><span style="color:#0000ff;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span></span></strong></span><span lang="th"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">ศิริมงคล สิงห์วังชา</span><br /></span></span></strong></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span></span></span></strong></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;"><strong> <span style="color:#000000;">ศิริมงคล เอี่ยมท้วม</span><br /></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span></span></strong></span><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="th">2 มีนาคม 2520</span></span></span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;font-size:100%;"><strong>จ. ปทุมธานี</strong></span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span></span></strong></span><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="th">59-2-0</span>;<span lang="en-us"> </span></span><span lang="th"><span style="color:#000000;">33</span></span></span></span></strong><span lang="en-us"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">KO</span><br /></span></span></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></strong></span><span lang="en-us"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span></span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="th">แชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต </span>WBU (<span lang="th">2538</span>)<br /><span lang="th">แชมป์แบนตั้มเวต </span>WBU (<span lang="th">2538-2539</span>)<br /><span lang="th">แชมป์แบนตั้มเวตเฉพาะกาล </span>WBC (<span lang="th">2539-2540</span>)<br /><span lang="th">แชมป์แบนตั้มเวต </span>WBC (<span lang="th">2540</span>)<br /><span lang="th">แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต </span>WBC (<span lang="th">2545-2546</span>)</span></span></strong></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span lang="th">แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต </span>ABCO (<span lang="th">2550</span>)<br /><span lang="th">แชมป์ซูเปอร์ไลต์เวต </span>PABA (<span lang="th">2550-ปัจจุบัน</span>)</span></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /></span><span style="color:#0000ff;"></span><span style="color:#0000ff;"><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><br />ศิริมงคลเริ่มชกมวยเมื่อปี 2537 ในสายของ "บิ๊กผมอึ่ง" สหสมภพ ศรีสมวงศ์ ผู้กว้างขวางในสภามวยโลกยุคนั้นของเมืองไทย ไฟต์แรกก็เอาชนะคะแนน 6 ยก ฤทธิชัย เกียรติประภัสร์ มวยเก๋ากว่าไปได้อย่างง่ายดาย ศิริมงคลชนะรวด 8 ครั้งก็ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์จูเนียร์แบนตั้มเวต WBU ที่ว่างอยู่เป็นตำแหน่งแรกที่เวทีมวยช่อง 7 สี กับ ฆวนนิโต้ "บอย" คูม่า นักมวยฟิลิปปินส์ และ "เจ้าโอ๋" ก็ต้อนแต้มขาดลอยได้ครองแชมป์เส้นแรกอย่างงดงามเมื่อ 5 สิงหาคม 2538 แต่ต่อมาอีกแค่ 4 เดือน "เจ้าโอ๋" ก็ทนรีดน้ำหนักต่อไปไม่ไหวกระโดดข้ามรุ่นมาชิงแชมป์ที่ว่างของสถาบันเดียวกันทันทีในวันที่ 23 ธันวาคม 2538 และเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน มิเกล เอสปิโนซ่า จากเม็กซิโกไปได้ขาดลอยอีกครั้ง กลายเป็นแชมป์โลก 2 รุ่นในทันที<br /><br />เจ้าโอ๋ป้องกันแชมป์ครั้งเดียวก็สร้างชื่อด้วยการไล่ถลุงนักชกรุ่นพี่อย่าง เขาใหญ่ มหาสารคาม (เถลิงศักดิ์ หรือ ถนอมศักดิ์ ศิษย์โบ๊เบ๊) คาคอกไปแค่ยกที่ 3 ก่อนที่ลูกพี่ใหญ่จะผลักดันให้ข้ามห้วยมาชิงแชมป์เฉพาะกาล WBC รุ่นเดียวกันเอาชนะน็อคยก 5 โฮเซ่ หลุยส์ บูเอโน่ ชนิดคู่ชิงแชมป์ที่ว่างหลับกลางอากาศเลยทีเดียวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2539 จากนั้นพอเจ้าของตำแหน่งตัวจริง เวยน์ แม็คคัลลัฟ สละตำแหน่งข้ามรุ่น เจ้าโอ๋ก็กลายเป็นแชมป์ตัวจริงไปโดยสมบูรณ์ และขึ้นป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 3 ไฟต์ ก่อนจะต้องลดน้ำหนักจนซีดเซียวไปป้องกันแชมป์กับ จิชิโร่ ซึโยชิ ที่แดนปลาดิบ ผลก็คือเจ้าโอ๋แพ้ภัยตัวเองพ่าย TKO ไปในยกที่ 7 เสียแชมป์ไปเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2540<br /><br />เจ้าโอ๋กลับมาภาค 2 อุ่นเครื่องถี่ยิบถึง 23 ครั้ง พร้อมกับได้ผู้จัดการคนใหม่ สุชาติพิสิฐวุฒินันท์ แห่งนครหลวงโปรโมชั่น และได้โอกาสชิงแชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต WBC ที่ว่างกับ เคนโกะ นากาจิม่า ที่โตเกียว และก้เป็นฝ่ายชนะน็อคไปแค่ยกที่ 2 กลายเป็นแชมป์โลก 3 รุ่นในทันทีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2545 แต่คราวนี้เขาป้องกันแชมป์เอาไว้ได้เพียงครั้งเดียว ก็เดินทางออกไปแพ้คะแนน เฮซุส ชาเวซ ถึงเมืองออสติน มลรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่15 สิงหาคม 2546 ชนิดที่ไม่กล้าแลกกับคู่ชกเท่าไหร่จนทำให้ผู้จัดการตัวจริงต้องขายต่อให้ทางผู้จัดการร่วม นริส สิงห์วังชา นำไปปลุกปั้นเองในสังกัด นริส โปรโมชั่น จนขณะนี้ก้าวเป็นรองแชมป์อันดับ 2 รุ่นไลต์เวตของ WBC แล้ว<br /><br />ศิริมงคลได้เดินทางไปชกตัดเชือกกับ ไมเคิล คล๊าค รองอันดับ 1 ในขณะนั้นที่ลาสเวกัส เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2548 และก็เอาชนะ TKO ไปในยกที่ 7 อย่างสวยงาม พร้อมทั้งได้สิทธิในการขึ้นชิงแชมป์ไลต์เวต WBC ต่อไป<br /><br />แต่เนื่องจากว่าทางแชมป์โลก ดีเอโก้ คอร์ราเลส นั้น มีพันธะที่จะล้างตากับคู่ปรับเก่า โฮเซ่ หลุยส์ คัสติญโญ่ อดีตแชมป์เก่าซึ่งปัจจุบันเป็นรองอันดับ 1 และเกิดการบาดเจ็บขึ้นมา จึงมีข่าวว่า “เจ้าโอ๋” กำลังจะได้ชิงแชมป์เฉพาะกาลที่ว่างแล้วในราวๆเดือนเมษายน 2549 นี้ กับแชมป์ OPBF ชาวญี่ปุ่น ชิคาชิ อินาดะ รองเบอร์ 7 ที่สหรัฐอเมริกา แต่โชคร้าย "เจ้าโอ่" เกิดตรวจพบเชื้อไวรัสบีจึงอดไปชิงแชมป์โลกเฉพาะกาลในที่สุด<br /><br />อย่างไรก็ตามเจ้าโอ๋กลับมาชกในเมืองไทยชนะไปแล้ว 1 ครั้ง และหากเชื้อไวรัสบีหายไปได้ก็น่าที่จะได้โอกาสทองของชีวิตอีกหนหนึ่ง<br /><br />ต่อมาเจ้าโอ๋ได้เซ็นต์สัญญาไปชกมวย K-1 แล้วจำนวน 4 ไฟต์ ฟันเงินไปหลายล้านบาท แต่กลับมีปัญหากับเสี่ยนริสจนต้องซื้อตัวเองคืน พร้อมทั้งขึ้นชกมวยไถ่ตัวเองโดยหักค่าตัว 50% ทุกไฟต์ โดยเจ้าตัวขึ้นชกชนะไปแล้ว 1 ครั้ง อย่างไรก็ตามปรากฏว่าเจ้าโอ๋ต้องเลิกสัญญาชก K-1 ก่อนกำหนด เนื่องจากมีปัญหาเรื่องถูกเบี้ยวค่าตัว ทำให้ต้องกลับมาชกมวยสากลอย่างเดียว<br /><br />เจ้าโอ๋ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ ABCO รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวต กับนักชกรุ่น้อง ทอง ป.โชคชัย ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 แม้ว่าจะต้องดลน้ำหนักจนแทบไม่มีแรงชก แต่เจ้าโอ๋ก็ยังใช้ฝีมือมวยที่เหนือกว่าเอาชนะคะแนนไปได้ 116-112 ทั้ง 3 เสียงคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ แต่ก็ประกาศสละตำแหน่งไปบนเวทีนั่นเอง เพราะไม่อยากจะลดน้ำหนักมาชกในพิกัดนี้อีกแล้ว<br /><br />หลังจากนั้นเจ้าโอ๋ก็อุ่นเครื่องชนะน็อค<span lang="th">อีก</span> 1 ครั้ง<span lang="th"> ก็ได้จังหวะขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์ไลต์เวต </span>PABA </span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">ที่ว่าง และก็สามารถเอาชนะคะแนน อาร์เนล ปอร์รัส คู่ชิงจากฟิลิปปินส์ไปขาดลอย คว้าแชมป์ไปครองเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2550<br /><br />ล่าสุดเจ้าโอ๋บินไปถลุง แชด เบนเน็ตต์ อดีตแชมป์ WBF ชาวออสเตรเลียคาคอกแค่ยกแรก ป้องกันแชมป์ PABA หนแรกเอาไว้ได้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2551 อย่างสวยงาม</span><br /><br />(ต้นฉบับภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์มวยสยามรายวัน)</span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-86231334983612961372008-08-18T13:50:00.003+07:002008-08-18T14:45:36.640+07:00พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม<p align="center"><span style="font-family:arial,helvetica,sans-serif;"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/phongSaklek.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /></span><b><span style="font-family:arial;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span><span style="color:#000000;">พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-family:arial;"> <span style="color:#000000;">วงศ์กร วันจงคำ</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"> <span lang="en-us">1</span>1 สิงหาคม 2520</span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-family:arial;"> <span style="color:#000000;">อ. บัวใหญ่, จ. นครราชสีมา</span></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"> 67-3-1<span lang="en-us">; 3</span>5<span lang="en-us">KO</span> </span></b><span lang="en-us"><b><br /></b></span><b><span style="color:#0000ff;"><br /><span style="font-family:arial;">เกียรติยศ</span></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span></span></b><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><b>แชมป์ไลต์ฟลายเวต WBU (2540-2541)<br />แชมป์ฟลายเวต WBC (2544-</b></span></span><b>2550</b></span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><b>)</b></span></span><br /><br /></span></p><p align="justify"><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="TH">พงษ์ศักดิ์เล็กจัดได้ว่ามีกำปั้นที่สั่งได้คนหนึ่ง เขาครองแชมป์ฟลายเวต</span> WBU <span lang="TH">ด้วยการชนะน็อค มซูกิซี่ ซิกาลี่ แชมป์จากแอฟริกาใต้แค่ยกแรก เมื่อวันที่ </span>28<span lang="TH"> มีนาคม </span>2540 <span lang="TH">แต่เขาก็ไม่ได้ป้องกันตำแหน่งเลยตลอดเวลาหนึ่งปีที่ครองแชมป์ เพราะทางไทยได้บอยคอตการจัดมวยชิงแชมป์</span> WBU </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="TH">ในตอนนั้น จนกระทั่งถูกถอดออกจากตำแหน่งไปในที่สุด<br /><br />อย่างไรก็ตามเขาก็ใช้เวลาอุ่นเครื่องอีก</span> 3 <span lang="TH">ปี</span> <span lang="TH">ก่อนที่จะขึ้นชิงแชมป์ฟลายเวต</span> WBC <span lang="TH">จาก มัลคอล์ม ทูนาเกา แชมป์ชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งพงษ์ศักดิ์เล็กก็เดินลุยใส่ตั้งแต่ยกแรกและก็เป็นฝ่ายถล่มเอาทูนาเกาล้มกลิ้งล้มหงาย</span> 3 <span lang="TH">ครั้ง จนเอาชนะ</span> TKO 1 <span lang="TH">ไปได้อย่างง่ายดายชิงแชมป์มาได้สุดสวย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2544 </span><span lang="TH">หลังจากนั้นเขาก็ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 12 <span lang="TH">ครั้งแล้ว</span> </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="TH">และเตรียมตัวที่จะทำสถิติป้องกันตำแหน่งให้ได้ 15 ครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อที่จะได้เข้าสู่ทำเนียบหอเกียรติคุณของสภามวยโลกต่อไป<br /></span><br />"<span lang="TH">เจ้ากร</span>" <span lang="TH">หรือ</span> "<span lang="TH">วงศ์กร วันจงคำ</span>" <span lang="TH">ในชื่อจริงนั้น </span></span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="TH">ดูจะสนอกสนใจในเรื่องการหาทำเลกว้านซื้อที่ดินเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเดินทางตระเวนไปชกที่ใด เป็นต้องสอบถามผู้รู้เกี่ยวกับสนนราคาบ้านและที่ดิน รวมทั้งทำเลค้าขายในย่านนั้นเป็นพิเศษ เมื่อถามถึงเหตุผล พงษ์ศักดิ์เล็กเล่าว่า<br /></span><br />"<span lang="TH">ผมเริ่มชกมวยไทยตั้งแต่อายุ</span> 12 <span lang="TH">ขวบ เป็นมวยแถมคู่ก่อนเวลา ไต่เต้าจนกระทั่งเป็นมวยคู่เอก </span><span lang="TH">เส้นทางมวยสากลอาชีพก็ไม่ต่างไปจากกัน ครอบครัวของผม พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่ก่อนเป็นแชมป์โลก </span><span lang="TH">ตัวผมเองจึงยังไม่คิดจะมีแฟนตอนนี้ </span><span lang="TH">แต่อยากมุ่งมั่นกับการชกมวยเพียงอย่างเดียว เพื่อหวังเก็บเงินเป็นทุนไว้ เมื่อยามเลิกมวยจะได้ไม่ลำบาก เมื่อถึงเวลาแขวนนวม </span><span lang="TH">ผมฝันว่าจะได้มีครอบครัวอันอบอุ่น</span> <span lang="TH">ไม่แตกแยกและแร้นแค้นเหมือนชีวิตผมในวัยเด็ก</span>"</span></span><span lang="TH"><span style="color:#000000;"><br /><br /><span style="font-family:arial;">นั่นคือความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของแชมป์โลกไทยวัย</span></span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"> 26 <span lang="TH">ปี ที่นักมวยไทยอีกหลายต่อหลายคน น่ายึดถือเป็นแบบอย่าง</span> !!!<br /><br /><span lang="TH">การป้องกันแชมป์ครั้ง</span><span lang="th">ที่</span> 12 <span lang="TH">เขาสามารถชนะเทคนิเกิ้ลโดยคะแนนคู่ปรับเก่า ไดสุเขะ ไนโตะ อดีตคู่ชิงแชมป์คนที่</span> 4<span lang="TH"> ในวันที่</span> 10 <span lang="TH">ต</span>.<span lang="TH">ค</span>. 2548<span lang="TH"> ที่ผ่านมา ที่เขาเคยเอาชนะน็อคไปแค่</span> 34 </span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="TH">วินาทีของยกแรกที่เมืองไทย อันเป็นสถิติโลกน็อคเร็วที่สุดของรุ่นฟลายเวตอยู่ในปัจจุบัน และการป้องกันแชมป์ครั้งที่ 13 ที่เมืองไทยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2549 ก็สามารถชนะคะแนน กิลเบอร์โต้ เค็บ-บาส ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันไปได้อย่างขาดลอย<br /><br />พงษ์ศักดิ์เล็กป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 14 และ 15 เอาไว้ได้ด้วยการชนะคะแนนผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น ไดโกะ นาคาฮิโร่ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 และชนะ </span>TKO4 <span lang="th">(แตก) ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกัน ชาวอีเวอราโด้ โมราเลส ในวันที่ 30 มิถุนายน 2549 จนได้รับการบรรจุเข้าหอเกียติคุณของ </span>WBC</span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="th"> ไปแล้วตามกฏ<br /><br />เขาป้องกันแชมป์ครั้งที่ 16 เอาไว้ได้ด้วยการชนะคะแนนผู้ท้าชิงชาวแอฟริกาใต้ โมเนลิซี่ มยิฮิซ่า มเยเกนี่ ในไฟต์บังคับ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะป้องกันแชมป์ครั้งที่ 17 ชนะ </span><span lang="en-us">TKO7 </span>โ</span></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="th">ทโมโนบุ ชิมิสึ เมื่อ 6 เมษายน 2550 ก่อนที่ไปพลาดท่าเสียแชมป์พ่ายคะแนน ไดสุเขะ ไนโตะ แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนในการการป้องกันแชมป์ครั้งที่ 18<br /><br />จากนั้นอีก 3 เดือนต่อมาพงษ์ศักด์เล็กก็กลับมาอุ่นเครื่อง และชนะไปแล้ว 2 ครั้ง ก่อนที่จะได้ชิงแชมป์โลกคืนจากไนโตะเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2551 แต่ก็ทำได้แค่เสมอเท่านั้น ยังชิงแชมป์คืนไม่สำเร็จ</span><br /><br />(<span lang="TH">ข้อความบางส่วนจากคอลัมน์ มุมนักสู้ นสพ</span>.<span lang="TH">ข่าวสด ฉบับที่</span> 5115 <span lang="TH">วันที่</span> 30 <span lang="TH">พฤศจิกายน</span> <span lang="TH">พ</span>.<span lang="TH">ศ</span>.2547 <span lang="TH">ปีที่</span> 14 <span lang="TH">และต้นฉบับภาพประกอบจากเว็บไซด์สำนักข่าวต่างประเทศ</span>)</span></span><span style="font-family:arial;color:#000000;"><br /><br /></span><strong><span style="font-family:arial;color:#000000;">Special Article<br /><br />เวทีชีวิตของ "พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม"</span></strong></p><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><strong>ผู้จัดการรายวัน 15 มกราคม 2550</strong> </span><br /><br /></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;">จากชีวิตที่ไม่เคยคิดแม้แต่จะก้าวขึ้นไปเหยียบผืนผ้าใบ แต่สุดท้ายแล้วกลับก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่จนได้จารึกชื่อในระดับฮอลล์ ออฟเฟม แถมในปี 2550 นี้กำลังจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น นั่นคือการทำลายสถิติป้องกันแชมป์ติดต่อกันมากที่สุด 19 ครั้งของ เขาทราย แกแล็คซี่ ยอดนักชกตลอดกาลของเมืองไทย...</span><br /></strong><br /><span style="font-family:arial;">นั่นคือเรื่องราวชีวิตคร่าวๆของ <strong>"พงศกร วันจงคำ"</strong> หรือที่แฟนมวยทุกคนรู้จักกันดีในนาม <strong>"พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม"</strong> เด็กหนุ่มผู้ก้าวเดินจากการทำงานในอู่ซ่อมรถ มาชกมวยไทย และสุดท้ายประสบความสำเร็จอย่างงดงามในฐานะเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก WBC และป้องกันมาได้แล้วถึง 16 ครั้ง มีเงินมีทองเป็นกอบเป็นกำ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ยอดนักชกผู้นี้ยังเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย และมีความเป็นอยู่มัธยัสถ์พอเพียงอย่างเหลือเชื่อ แม้จะเป็นถึงแชมป์โลกที่มีฐานะค่อนข้างดี เนื่องจากเดินทางไปป้องกันตำแหน่งต่างแดนตลอดจึงมีเงินเก็บกว่า 5 ล้านบาทแล้ว แต่เท้าของ พงษ์ศักดิ์เล็ก ยังไม่เคยลอยจากพื้นแม้แต่นิดเดียว</span><br /><br /></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><strong>กระโจนสู่ผืนผ้าใบ</strong><br /><br />จากชีวิตวัยเยาว์ของเด็กชายพงศกร วันจงคำ ซึ่งไม่เคยคิดที่จะเป็นนักมวยเลย จนวันหนึ่งเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต ขีดเส้นให้เด็กหนุ่มผู้นี้ก้าวขึ้นสู่ผืนผ้าใบ โดยตอนนั้นเด็กชายพงศกรผู้นี้อายุเพียง 11 ปี และกำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.6 อยู่ที่โคราชบ้านเกิด บังเอิญแถวบ้านมีงานวัด แล้วโปรโมเตอร์ขาดนักมวยอยู่พอดี เวลากำลังกระชั้นเข้ามา หาใครไม่ทันหันไปไม่เห็นใครแล้วประกอบกับโปรโมเตอร์รู้จักกับที่บ้านพอดี เลยลองมาชวนเด็กชายพงศกรซึ่งตอนนั้นไม่เคยชกกับใคร เป็นเพียงเด็กในอู่ซ่อมรถของพ่อ แต่ตัดสินใจแบบตกกระไดพลอยโจนขึ้นชกทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องมวยเลย<br /><br />ผลการชกในไฟต์นั้นเหมือนเป็นลางดี เมื่อเด็กอู่รถคว้าชัยชนะมาได้อย่างเหลือเชื่อ โดยเจ้าตัวเองเผยว่าได้เงินรางวัลจากการชกครั้งนั้นเป็นจำนวนเงิน 100 บาท แถมบังเอิญยิ่งกว่าในการชกไฟต์นั้นเกิดมีแมวมองมาชมอยู่ด้วย แอบติดใจฝีไม้ลายมือของเขา จึงได้ตามจีบเข้าค่ายทันที แรกๆเจ้ากรก็ปฏิเสธเพราะไม่เคยมีความตั้งใจจะเป็นนักมวย แต่สุดท้ายทนลูกตื้อไม่ไหว ตัดสินใจลองชกมวยไทยดู<br /><br />เจ้ากร หรือ "มังกรทอง ศิษย์เซียนเมฆ" ฉายาที่ใช้ในการชกมวยไทยระยะแรกที่โคราช และต่อมาเลื่อนระดับเข้ามาแถวตะเข็บกรุงเทพฯ ค่าตัวเพิ่มขึ้นมาเป็นหลักหลายพันบาท<br /><br />หลังจากนั้น พงษ์ศักดิ์เล็ก มีโอกาสชกครั้งแรกในกรุงเทพฯที่สนามมวยลุมพินีโดยใช้ชื่อ "พงษ์ศักดิ์เล็ก ศิษย์คะนองศึก" เรียกได้ว่าเจ้ากรชกมวยไทยหากินมาเรื่อยจากค่าตัว 100 บาท จนกระทั่งไต่ระดับมาได้ถึงสองหมื่นบาท ก่อนจะหันเหไปชกมวยสากลอาชีพในที่สุด<br /><br /><strong>ความสำเร็จมิได้มาเพราะโชคช่วย</strong><br /><br />แน่นอนทางแห่งความสำเร็จจะโรยด้วยกลีบกุหลาบย่อมไม่มี การเริ่มต้นชีวิตนักมวยของ พงษ์ศักดิ์เล็ก นั้นสร้างความเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ให้กับตัวเขาหลายต่อหลายเที่ยว จนคิดจะหันหลังให้กับผืนผ้าใบและเดินทางกลับโคราชหลายหน แต่ดีที่ครูมวยสมัยนั้นทัดทานเอาไว้ทุกครั้ง มิฉะนั้นคงไม่มี พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม เช่นทุกวันนี้<br /><br />ตัวเขาเองเปิดเผยว่า หลังจากผ่านจุดที่เหนื่อยที่สุดไปแล้ว ก็เริ่มรักและติดใจการชกมวยขึ้นมา โดยเปิดเผยว่าเคล็ดลับของความสำเร็จที่ทำให้ตัวเขาเองเดินมาได้จนถึงจุดนี้คือความขยัน และซื่อสัตย์ต่อตนเอง นอกจากนี้แล้วคนใกล้ตัวเขายังแอบเผยอีกว่า พงษ์ศักดิ์เล็ก ยังเป็นคนที่เคร่งครัดกับเรื่องของเวลามาก นัดไปไหน ไม่เคยสาย แถมบางครั้งไปก่อนเวลาเป็นชั่วโมงก็เคยมี<br /><br />หลังความสำเร็จด้านการชกมวยไทยพอสมควร ในที่สุดจากสายตา ความเชื่อมั่นและการผลักดันของ "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ รวมทั้งทีมงาน"เพชรยินดี" ทำให้พงษ์ศักดิ์เล็กได้ผันตัวเองมาชกสากลจนได้ก้าวขึ้นไปสู่การชิงแชมป์โลก และกระชากเข็มขัดมาได้จาก มัลคอล์ม ทูนากัล ที่จังหวัดพิจิตร สร้างความชื่นชมให้แก่แฟนมวยชาวไทยในที่สุด<br /><br />จากวันนั้นถึงวันนี้ พงษ์ศักดิ์เล็ก นักมวยค่าตัว 100 บาทได้กลายเป็นแชมป์โลก รุ่นฟลายเวต พิกัดน้ำหนัก 112 ปอนด์ ผู้ยิ่งยงของ WBC หรือสภามวยโลก เมื่อทำสถิติป้องกันเข็มขัดติดต่อกันมาถึง 16 ไฟต์รวด และได้จารึกชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ หรือ Hall of Fame ของ WBC ไปเรียบร้อยแล้ว</span><br /><br /></span><span style="font-family:arial;"><span style="color:#000000;"><strong>จากแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่สู่ฮอลล์ ออฟ เฟม<br /></strong><br />ทั้ง 16 ครั้งของการป้องกันเข็มขัดนั้น แม้พงษ์ศักดิ์เล็กเผยว่าประทับใจไฟต์แรกซึ่งกระชากแชมป์มาได้จากทูนากัลมากที่สุดนั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไฟต์ที่เขาไม่มีวันลืมนั่นก็คือการป้องกันครั้งที่ 15 ซึ่ง "เจ้ากร" พงษ์ศักดิ์เล็ก ขึ้นชกกับ อีเวอราโด้ "เอล ซิฮัว" โมราเลส ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิโก<br /><br />การชกในครั้งนั้นเรียกว่า "ศึกกระทิงแดงท้าประวัติศาสตร์บัลลังก์โลก WBC" ปรากฏว่าประหมัดกันไม่นาน การชกก็จบลงอย่างรวดเร็วเพียงในยกที่ 3 เท่านั้น<br /><br />โดยตั้งแต่ยกแรกแชมป์โลกชาวไทยเป็นฝ่ายเดินเข้าหา พร้อมทั้งสาวหมัดใส่ผู้ท้าชิงเกือบตลอดเวลา ขณะที่ในยกที่สอง การชกยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม และเป็นผู้ท้าชิงชาวเม็กซิโกที่เพลี่ยงพล้ำ ถูกส่งลงไปนับ 8 แต่ก็ยังกัดฟันสู้ต่อไปจนหมดยก<br /><br />การชกในยกที่ 3 พงษ์ศักดิ์เล็ก ยังคงเดินหน้าเข้าหาผู้ท้าชิง พร้อมกับชกจนนักชกแดนจังโก้ร่วงลงไปกองให้กรรมการนับ 8 อีกครั้ง และยังมีแผลแตกบริเวณหางคิ้วขวา จนต้องเรียกแพทย์สนามขึ้นมาดูบาดแผล แต่แพทย์ผู้ตรวจยืนยันว่าบาดแผลยังไม่เป็นอันตรายต่อผู้ท้าชิง จึงอนุญาตให้การชกดำเนินต่อไป<br /><br />หลังจากนั้น "เจ้ากร" ได้โอกาส จึงไล่ระดมพายุหมัดเข้าใส่แผลแตกของผู้ท้าชิง จนกระทั่งกรรมการต้องเรียกแพทย์สนามเข้าตรวจบาดแผล โมราเลส อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้นายแพทย์ผู้ชี้ขาดไม่อนุญาตให้นักชกชาวเม็กซิกันชกต่อไปได้ จึงกลายเป็นการแพ้ ทีเคโอ ของโมราเลส<br /><br />ชัยชนะครั้งนั้นนอกจากจะมีผลให้ พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 15 ได้สำเร็จแล้ว ยังทำให้เขากลายเป็นนักมวยระดับตำนานเมื่อได้รับเกียรติเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ "ฮอลล์ ออฟ เฟม" ของสภามวยโลก ต่อจากนักมวยไทยรุ่นพี่อย่าง แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์, ชาติชาย เชี่ยวน้อย และ สด จิตรลดา<br /><br /><strong>เป็นแชมป์โลกแต่ยังใช้ชีวิต "พอเพียง"</strong><br /><br />แม้จะเป็นแชมป์โลกที่เดินทางไปป้องกันตำแหน่งยังต่างแดนบ่อย ทำให้ได้เงินรางวัลเป็นกอบเป็นกำ จนปัจจุบัน พงษ์ศักดิ์เล็ก ในวัย 29 ปีนั้น ด้วยความมัธยัสถ์ทำให้เขามีเงินเก็บในธนาคารเฉียด 5 ล้านบาท แถมด้วยการซื้อที่ดินสะสมไว้ที่บ้านเกิดโคราชอีกหลายผืนด้วย<br /><br />ด้วยสถานภาพของพงษ์ศักดิ์เล็กซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้แต่งงาน แต่คบหากับแฟนสาวอยู่ ทว่าจากความไม่ประมาทในเส้นทางชีวิตการค้ากำปั้นซึ่งค่อนข้างสั้นและไม่แน่นอน โดยตัวอย่างจากนักมวยรุ่นพี่ซึ่งประสบความยากลำบากหลังแขวนนวมเลิกชกไปแล้วมีให้เห็นอย่างดาษดื่น<br /><br />แชมป์โลกผู้นี้ยังคงดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงและใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ในปัจจุบันก็ยังอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆในค่ายมวยซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 เหมือนตอนเข้ามาอยู่กรุงเทพฯใหม่ๆ เนื่องจากตัวเขาเองคิดจะอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะตั้งเป้าว่าหลังชกอีกเพียง 3-4 ปี ก็จะขอกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดโคราช เพราะไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองหลวง<br /><br />ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ชกมวย พงษ์ศักดิ์เล็ก เผยสาเหตุที่ทำให้ตัวเขาประสบความสำเร็จว่า อยู่ที่ระเบียบ วินัยในการฝึกซ้อมและการบังคับตัวเองให้ได้เท่านั้นเอง จนกระทั่งปัจจุบันเขาก็ยังไม่เคยลืมตัว และระมัดระวังเรื่องเวลาการนัดหมายเป็นอย่างมาก<br /><br /><strong>เผยไม่เคยคิดทำลายสถิติ "เขาทราย"</strong><br /><br />แน่นอนปี พ.ศ. 2550 หลังจากทีมงาน "เพชรยินดี" และ "เสี่ยตังค์" ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ได้ประกาศแผนการบันได 4 ขั้น เพื่อให้ พงษ์ศักดิ์เล็ก ป้องกันตำแหน่ง 4 ไฟต์รวดในปีนี้ โดยหลังจากที่จะมีคิวอุ่นเครื่องในวันที่ 26 มกราคม นี้ หลังจากนั้นก็จะเตรียมตัวป้องกันตำแหน่งไฟต์ที่ 17 ในช่วงเดือนมีนาคม ไฟต์ที่ 18 เดือนมิถุนายน ไฟต์ที่ 19 เดือนกันยายน และสุดท้ายไฟต์ที่ 20 ซึ่งจะทำลายสถิติของ เขาทราย กาแล็คซี่ ในเดือนธันวาคม เพื่อเป็นการฉลองพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย<br /><br />เจ้าตัวพงษ์ศักดิ์เล็ก ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนว่า "ผมไม่อยากให้คิดว่าเป็นการทำลายสถิติของพี่เขาทราย พี่เขาเป็นนักชกที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทย และเป็นตำนานไปแล้ว อยากให้คิดว่านี่เป็นสถิติของผมเองไม่เกี่ยวกับใคร ผมจะมองการชกทีละไฟต์เท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะทำลายสถิติใคร"<br /><br /><strong>ปูทางหาเลี้ยงชีพในอนาคตไว้แล้ว</strong><br /><br />นอกจากเรื่องของหมัดๆมวยๆและการทำลายสถิติป้องกันแชมป์แล้ว ตัวพงษ์ศักดิ์เล็ก ก็ยังไม่ประมาท ได้มองไกลไปถึงแผนการวางอาชีพในอนาคตหลังแขวนนวมไปแล้ว โดยนักชกจากโคราชผู้นี้ได้เปิดเผยว่า<br /><br />"ผมจะขอชกต่ออีก 3-4 ปีเท่านั้น จากนั้นจะขอเดินทางกลับไปอยู่โคราชบ้านเกิด เพราะไม่ชอบอยู่อย่างแออัดในกรุงเทพฯ ขณะนี้ได้เตรียมแผนการลงทุนธุรกิจเล็กๆเอาไว้ อย่างเช่น การเปิดมินิมาร์ท เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไส้กรอกของ ซีพี ก็ได้คุยกันไว้บ้างแล้ว แต่ที่ได้ลงมือทำไปแล้วนั่นก็คือการร่วมลงทุนผลิตครีมนวดไทยแชมเปี้ยน ซึ่งเป็นนวัตกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย ลองใช้เองแล้วได้ผลจริง กล้ารับประกัน ใช้อยู่ทุกวัน ช่วยผ่อนคลาย รักษาลดอาการอักเสบ ปวดบวมปวดเมื่อย นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายตัว ที่เด่นก็มี พิมเสนน้ำ ใครสนใจจะใช้หรือรับไปจำหน่ายติดต่อได้ที่เบอร์ 08-1259-2727 และ 08-1584-8382 นอกจากนี้ในอนาคตผมก็ยังอยากจะเปิดโรงเรียนสอนชกมวย ร้านนวดแผนไทย รวมทั้งเปิดสอนการนวดเพื่อผลิตคนนวดที่มีความรู้อย่างจริงๆจังๆด้วย"<br /><br />สุดท้ายแล้วด้วยสภาพที่วงการมวยสากลของไทยเรากำลังซบเซาและขาดแคลนแชมป์โลกเป็นอย่างมาก แฟนมวยของเราคงต้องเอาใจช่วย พงษ์ศักดิ์เล็ก ให้สามารถรักษาเข็มขัดและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเราต่อไปนานๆ นอกเหนือไปกว่านั้นยังต้องส่งใจเชียร์ให้เขาประสบความสำเร็จในสังเวียนชีวิต เหมือนที่เคยทำได้บนเวทีมวยมาแล้วด้วย<br /><br />* * * * * * * * * * * *<br /><br />ชื่อจริง : พงศกร วันจงคำ<br />ชื่อเล่น : กร<br />เกิด : 11 สิงหาคม พ.ศ. 2520<br />อายุ : 29 ปี<br />บ้านเกิด : นครราชสีมา<br />ส่วนสูง : 163 เซนติเมตร<br />สถิติการชกสากล : 65-2-0<br />เทรนเนอร์ : พยัคฆ์ ช.พิมล<br />ผู้จัดการ : วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์<br /><br />* * * * * * * * * * * *<br /><br />เรื่อง - ทีมข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน</span></span>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-9474017932273674782008-08-18T08:14:00.001+07:002008-08-18T08:22:56.882+07:00หนึ่งเดียว ศักดิ์จารุพร<p align="center"><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><span style="font-size:100%;"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/nuengdeaw.jpg" width="225" border="2" /></span><b><span style="font-size:100%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /></span><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></span><span style="color:#000000;"><span lang="th">หนึ่งเดียว ศักดิ์จารุพร</span></span></span></span></strong><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /><strong><br /></strong></span><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;font-size:100%;"><strong>สาคร เข็มทอง</strong></span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;font-size:100%;"><strong>14 พฤษภาคม 2515</strong></span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><span lang="th" style="font-family:arial;font-size:100%;"><strong>กิ่งอำเภอด่านมะขามเตี้ย, กาญจนบุรี</strong></span></span><span style="color:#0000ff;"><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="th">18</span>-<span lang="th">2</span>-<span lang="th">0</span><span lang="en-us">; </span><span lang="th">12</span></span></span></strong></span><span lang="en-us"><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;"><strong>KO</strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong></strong></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></strong><span lang="en-us" style="font-family:arial;font-size:100%;"><strong>:<br /></strong></span></span><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><strong>แชมป์<span lang="th">ไลต์ฟลายเวต</span> <span lang="en-us">WBU (</span>253<span lang="th">8-2539</span>)<br /><br /></strong><span style="color:#000000;"><span lang="th"></span></span></span></span></span></span><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span lang="th">หนุ่มนักชกจากเมืองกาญจน์ผู้นี้เริ่มชกมวยสากลอาชีในปี 2536 และชนะรวดติดต่อกันมาถึง 9 ไฟต์ ก็ได้รับโอกาสให้ขึ้นชิงแชมป์มินิฟลายเวต</span> <span lang="th"></span>WBF<span lang="th"> </span><span lang="th">เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2538 </span><span lang="th">แต่ก็ตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนน รอนนี่ มากราโม่ นักชกพันธ์อึดจากฟิลิปปินส์ไปในกำหนด 12 ยก</span> <span lang="th">แต่เขาก็ไม่ย่อท้อกลับไปชกทำฟอร์มอีก 2 ไฟต์ ก่อนจะข้ามรุ่นไปชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต </span>WBU <span lang="th">ที่ว่างอยู่กับ เรนาร์โด้ เบโนเนซ และก็เป็นฝ่ายเอาชนะ </span>TKO</span><span style="font-family:arial;"><span lang="th">4 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมปีเดียวกัน<br /><br />หนึ่งเดียวป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 3 ครั้ง ก่อนที่พลาดท่าถูก มซูกิซี่ สิกาลี่ นักชกแอฟริกาใต้จวกเอาแพ้ </span>TKO10 </span><span lang="th" style="font-family:arial;">คาบ้าน เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2539 (ต่อมาซิกาลี่เสียแชมป์ให้พงษ์ศักดิ์เล็ก)<br /></span></span></span><span style="color:#000000;"><span style="color:#000000;"><span lang="th"><br /><span style="font-family:arial;">หนึ่งเดียวขึ้นอุ่นเครื่องอีกครั้งเดียวในปีต่อมา และเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน ไฮเม่ อลิควิน ในกำหนด 10 ยก เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2540 ก่อนจะแขวนนวมไปในที่สุด</span></span><br /><br /><span style="font-family:arial;">(ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารโลกกำปั้น)</span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-5277658314979454322008-08-13T14:13:00.005+07:002008-08-13T14:36:00.070+07:00แสน ส.เพลินจิต<p align="center"><span style="font-family:Arial;"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/Saen.jpg" width="225" border="2" /><span style="color:#0000ff;"><br /><strong></strong></span><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#0000ff;"><br /><strong>ชื่อนักมวย</strong></span><span lang="en-us"><strong><span style="color:#0000ff;">:</span> </strong></span><span style="color:#000000;"><strong>แสน ส.เพลินจิต<br /></strong></span><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><strong><span style="color:#0000ff;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span></span> แสนพิศ<span lang="th">ิ</span>ษฎ์ พุทน์ครุฑ (<span style="color:#000000;"><span lang="en-us">ส</span>มชาย เชิดฉาย)</span></strong><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong>วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></strong></span><strong> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">1</span>8 พฤษภาคม 2515</span></strong><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong>ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </strong></span><span style="color:#000000;"><strong>จ. ปทุมธานี</strong></span><span lang="en-us"><br /><strong></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong>สถิติ<span lang="en-us">:</span></strong></span><strong> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">4</span>4-3-0</span></strong><span lang="en-us"><strong><span style="color:#000000;">;14KO</span><br /></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong>เกียรติยศ</strong></span><strong><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ฟลายเวต </span></strong><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><strong>WBA (2537-2539)<br /><br /></strong><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Arial;"><span lang="TH"></span></span></span></span></span></span></span></span><p align="justify"><span style="font-family:Arial;"><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Arial;"><span lang="TH">ถนนกำปั้นของ</span> "<span lang="TH">สมชาย เชิดฉาย</span>" <span lang="TH">แห่งทุ่งรังสิต ซึ่งเริ่มต้นจากมวยไทยในชื่อ</span> "<span lang="TH">เดินหน้า โล่ห์เงิน</span>" <span lang="TH">แล้ววกเข้าสู่สายอินเตอร์ กลายเป็น</span> "<span lang="TH">แสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต</span>"<span lang="TH">นั้น คล้ายรอยลิขิตของโชคชะตา โดยที่ตัวเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน<br /><br />เพราะเดิมทีเดียว แสนมีฐานะเป็นแค่คู่ซ้อมของ</span> "<span lang="TH">แก่นศักดิ์ ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต</span>" <span lang="TH">เท่านั้น บังเอิญว่าหน่วยก้านเกิดไปเข้าตา</span>"<span lang="TH">นายใหญ่</span>" <span lang="TH">เสถียร เสถียรสุต เจ้าของค่ายเข้าให้ จึงถูกวางตัวเป็น</span>"<span lang="TH">มวยสร้าง</span>"<span lang="TH">แบบสากลโดยมีตำแหน่งแชมป์โลกสถาบันใดสถาบันหนึ่งเป็นเป้าหมายหลัก<br /><br />เส้นทางสายใหม่ของแสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต อันมี</span> "<span lang="TH">อิสมาแอล ซาลาส</span>" <span lang="TH">จากคิวบาเป็นเทรนเนอร์นั้นได้ยึด </span>"<span lang="TH">โผน กิ่งเพชร</span>" <span lang="TH">เป็นต้นแบบตามแผนการของหัวหน้าค่ายซึ่งชื่นชอบลีลาการชกของ โผน กิ่งเพชร เป็นพิเศษยิ่งกว่านักมวยคนใดในปฐพี<br /><br />แสนได้พยายามศึกษารูปแบบจากเทปการชกของ โผน กิ่งเพชร อย่างละเอียดทุกขั้นตอน ไม่ว่าการยืน จังหวะฟุตเวิร์ก การออกหมัด โดยเฉพาะหมัดแย็บและอัปเปอร์คัตในระยะประชิดนั้น แสนทำได้ดีและใกล้เคียงมาก แม้ไม่เต็มร้อยก็ไม่น้อยกว่าเก้าสิบ</span>-<span lang="TH">ว่าอย่างนั้นเถิด</span>..!!<span lang="TH"><br /><br />ดังนั้น ฉายา "โผน 2" ของแสน ส.เพลินจิต ต้องถือว่าได้มาจากความตั้งใจและอุตสาหะพากเพียรอย่างแท้จริง !!<br /><br />ผลก็คือ</span>..<span lang="TH">ในสถิติการชกหาประสบการณ์</span> 16 <span lang="TH">ครั้ง แสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต ชนะรวด<br /><br />แสนได้แชมป์ฟลายเวต</span> WBA <span lang="TH">มาครองจากการเอาชนะคะแนน เดวิด กรีแมน แชมป์จากเวเนซูเอล่า ที่ฉะเชิงเทรา นับเป็นแชมป์โลกชาวไทยลำดับที่</span> 19<span lang="TH"> ชัยชนะของ "แสน ส.เพลินจิต" เหนือ "เดวิด กรีแมน" ที่ฉะเชิงเทรา เมื่อ 13 ก.พ.2537 นั้น ถือเป็นการทวงคืนเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท </span>WBA<span lang="TH"> ได้สำเร็จอันงดงามยิ่งของนักชกไทยในรอบ 20 ปี นับแต่ ชาติชาย เชี่ยวน้อย ไปเสียตำแหน่งให้ ซูซูมุ ฮานากาตะ ที่ญี่ปุ่น เมื่อ 18 ต.ค.2517 แสนป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 9 <span lang="TH">ครั้ง ก่อนที่จะพลิกล็อคแพ้คะแนนเสียแชมป์ให้กับผู้ท้าชิงเวเนซูเอล่า โฮเซ่ โบนิญญ่า ที่อุบลราชธานี อย่างหวุดหวิด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2539 </span></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;"><br /><br />อย่างไรก็ตามเขายังขึ้นอุ่นเครื่องอีกเกือบ</span><span style="font-family:Arial;"> 20 <span lang="TH">ไฟต์แต่ก็ยังไม่ได้ชิงแชมป์โลกอีกสักที เขาจึงบินไปเป็นคู่อุ่นเครื่องให้กับนักมวยญี่ปุ่น อย่าง โจอิชิโร่ ซึโยชิ</span> (<span lang="TH">แพ้</span> TKO 6) <span lang="TH">และ โชจิ คิมูระ</span> (<span lang="TH">แพ้</span> TKO 10) <span lang="TH">และแขวนนวมไปในที่สุด<br /><br />แสนได้ใช้วุฒิปริญญาตรีจากวิทยาลัยพลศึกษา ไปเป็นครูรับจ้างสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนกีฬาในจังหวัดนครสวรรค์ อีกทั้งยังทำงานในค่ายเพลงลูกทุ่งของคนสนิท ก่อนที่จะหันมาประกอบอาชีพอีกหลายอย่าง<br /><br />ล่าสุด แสนได้ถูกชักชวนโดย ครู นพวรรณ งามมีศรี ที่เคยสอนเขาเมื่อครั้งยังเรียนที่วิทยาลัยพละศึกษากรุงเทพ ให้ไปเป็นผู้ช่วยเทรนเนอร์คุมนักมวยเยาวชนไปแข่งกีฬาเยาวชนเอเชียที่รัสเซีย ในปี 2008 นี้ หลังจากนั้นเขาก็ได้รับงานเป็นเทรนเนอร์สอนนักมวยระดับเยาวชน ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 ปทุมธานี จนถึงปัจจุบัน<br /></span></span><span style="font-family:Arial;"><span lang="TH"><br />(เรียบเรียงเพิ่มเติมจากเรื่อง</span> <span lang="TH">"เจ้าของฉายา "โผน 2" แสน ส.เพลินจิต" คอลัมน์ ฉายาชาวยุทธ์ โดย สว่าง สวางควัฒน์ นสพ.ข่าวสด ฉบับที่ 5151 วันที่ 5</span> <span lang="TH">มกราคม</span> <span lang="TH">พ.ศ.2548 ปีที่ 14</span>,<span lang="TH"> ชีวิตที่เหลือ..(ของ) แสน โดย สุรเดช อภัยวงศ์ หนังสือพิมพ์มวยสยามซ็อคเกอร์ทูเดย์ ฉบับวันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2551, ต้นฉบับภาพประกอบจากเว็บไซด์ต่างประเทศ</span>)<br /><br /><strong>Special Article<br /><br /></strong><strong>วีรบุรุษตกอับ "แสน ส.เพลินจิต"<br /><br /></strong>ข้อมูลจากเว็บไซด์ <span style="font-family:Arial;color:black;">mthai.com <span lang="TH">ต้นฉบับดั้งเดิมจาก นสพ.มติชน ฉบับวันที่ </span>21<span lang="TH"> มิถุนายน 2548<br /><br />ที่เขาบอกกันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นาน เห็นจะตรงกับชีวิตช่วงนี้ของ แสน ส.เพลินจิต อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของสมาคมมวยโลกมากที่สุด เพราะนับจากเสียแชมป์โลกในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 10 ของตัวเองให้กับ โฮเซ่ โบนินญ่า ผู้ท้าชิงชาวเวเนซุเอลา ในปี 2539 ไปแล้ว นักชกผู้นี้ก็ไม่เคยได้มีโอกาสกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์คืนอีกเลย </span></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />"แสน" จึงได้ลิ้มรสชาติแห่งความสุขเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น หลังจากที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นครั้งแรกในปี 2537 ก่อนจะครองสถิติชนะรวดในการชกป้องกันแชมป์ทั้งสิ้น 9 ครั้ง<br /><br />ณ เวลานั้นชื่อของ แสน ส.เพลินจิต เป็นนักมวยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมวยที่มีเบสิคค่อนข้างดี ชกสนุก และมีหมัดแย็บคล้ายกับสุดยอดนักชกอย่าง โผน กิ่งเพชร แม้จะมีรูปร่างค่อนข้างผอมบาง แต่ก็สามารถเอาชนะคู่ชกที่เหนือกว่าได้<br /><br />"ไฟต์ที่เริ่มสร้างชื่อเสียงของผม คือตอนขึ้นอุ่นเครื่องกับนักชกฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกที่เวทีมวยลุมพินี ชกกับเมลวิน มากราโม่ ที่หลายคนน็อคไม่ลง แต่ผมก็ยังเอาชนะมาได้"<br /><br />นั่นจึงเป็นที่มาของก้าวแรกในการขึ้นชิงแชมป์โลกสถาบันใหญ่ในเวลาต่อมาของแสน หลังได้รับการติดต่อจาก ทรงชัย รัตนสุบรรณ โปรโมเตอร์ชื่อดังในการจัดไฟต์การชกระดับโลกให้<br /><br />ก่อนที่จะสร้างชื่อเป็นที่รู้จักในวงการมวยโลก "แสน" เป็นเพียงเด็กชาย "เหน่ง" สมชาย เชิดฉาย อายุ 8 ขวบ ที่ถูกเด็กๆ แถวบ้านรุมรังแกและโดนซ้อมอยู่บ่อยๆ เพราะความที่ตัวเล็กกว่าคนอื่นจึงสู้ไม่ได้ แต่จะมีพี่ชายข้างบ้านซึ่งเป็นนักมวยอยู่ที่ค่ายโล่ห์เงินแถวๆ บ้านคอยเข้ามาช่วยอยู่เสมอ จนกระทั่งชักชวนให้แสนมาซ้อมมวยเพื่อเป็นวิชาป้องกันตัวในที่สุด<br /><br />"ซ้อมวันแรกผมรู้สึกชอบเสียงตอนชกกับเตะนะ ดูแล้วน่าสนุกดีเลยมาซ้อมกับพี่เขาตลอด ตื่นมาวิ่งด้วยกันตอนตี 5 ทุกวัน หัดชกไปได้ระยะนึงก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นเลยไปขอท้าชกกับพวกที่เคยรังแกเรา ก็ไม่ถึงกับมีผลแพ้-ชนะ แต่เราได้แสดงให้เห็นว่าเราไม่กลัวเขาแล้ว เขาก็ไม่กล้ามาหาเรื่องอีก"<br /><br />แสนเล่าว่า เวทีแรกที่ขึ้นชกครั้งแรกเป็นของค่ายอดิสร ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งถือว่าเป็นเวทีใหญ่อยู่เหมือนกัน โดยขึ้นชกเป็นคู่ก่อนเวลา<br /><br />"ไฟต์แรกชกชนะคะแนนได้ค่าตัวมา 110 บาท ให้แม่หมดเลยแต่ก็ขอไปกินขนมบ้าง ตอนนั้นชกได้เงินก็โอเคแล้วไม่ได้คิดถึงอนาคตอะไร พอชกชนะก็เดินกร่างเลย"<br /><br />จากเงินไม่กี่ร้อยบาท แสนเริ่มหารายได้เลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งทางบ้านตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีรายได้เสริมจากการตักน้ำและหาบน้ำขายด้วย เพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน<br /><br />ช่วงที่เรียนอยู่ชั้น ม.3 แสนบอกว่า นอกจากจะเป็นนักมวยให้กับค่ายโล่ห์เงินแล้ว ยังไปสมัครเป็นนักมวยสากลของโรงเรียนธัญบุรีด้วย<br /><br />"ตอนไปสมัครครั้งแรก อาจารย์ที่รับสมัครถามว่าจะชกได้เหรอ แต่ก็ยืนยันว่าชกได้ ปีนั้นก็ได้เข้าชิงชนะเลิศในรุ่นเล็กสุด 42 กิโล แต่ได้เหรียญเงิน เพราะไม่ได้ขึ้นชก"<br /><br />ส่วนที่มาของเหรียญเงินในครั้งนี้ เจ้าตัวเล่าแบบขำๆ ว่า หลังจากลดน้ำหนักเสร็จก็กลับมานอนรอที่โรงเรียน และบอกให้อาจารย์ที่คุมทีมตามขึ้นชกด้วย แต่พอถึงเวลาอาจารย์กลับลืม ไม่ได้มาบอกทำให้ได้แค่เหรียญเงิน ส่วนคนที่ได้เหรียญทองตอนหลังก็มาเรียนอยู่ห้องเดียวกัน<br /><br />พอจบการศึกษาระดับมัธยม แสนเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยพลศึกษาและเป็นนักมวยของสถาบันด้วย ซึ่งผลการชกจะชนะเสียเป็นส่วนใหญ่ แถมยังเคยเป็นตัวแทนเขตการศึกษา 1 และมีโอกาสได้คัดตัวดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิค "แอตแลนต้าเกมส์" ด้วย แต่ชกแพ้ วันชัย หมวดนอก ทำให้ไม่ติดทีมดาวรุ่งอย่างที่วาดหวังไว้<br /><br />"ผมไม่คิดเสียดายตอนหลังนะที่ไม่ได้ไปชกโอลิมปิค เพราะคิดว่าเป็นโอกาสของคนมากกว่า ใครๆ ก็อยากคว้าโอกาสให้ได้ทั้งนั้น แต่ทางเดินของผมมันเป็นอย่างนี้"<br /><br />ทางเดินของแสนจึงกลายเป็นนักมวยสากลอาชีพนับจากนั้น แม้จะมีคนพูดเข้าหูเยอะว่าไม่น่าจะไปรอด เพราะรูปร่างบอบบางกว่านักชกคนอื่น แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าโครงสร้างของตนเองเป็นอย่างนี้ จึงต้องอาศัยเทคนิคในการชกมากกว่า จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเข็มขัดแชมป์โลกควรคู่กับเขา เมื่อเอาชนะคะแนน เดวิด กรีแมน แชมป์โลกชาวเวเนซุเอลาลงได้ในการชกชิงแชมป์ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2537 ขณะที่มีอายุ 23 ปี<br /><br />"ตอนที่ได้แชมป์จากเดวิด กรีแมน ผมภูมิใจมากตรงที่ว่าเขามีเบสิคเก่งมาก ก่อนชกหลายคนบอกไม่น่าชกด้วย เพราะยังไงก็สู้ไม่ได้ และตอนนั้นผมอยู่อันดับ 9 ของโลกด้วย"<br /><br />หลังจากนั้นแสนก็ชกป้องกันแชมป์มาตลอดแต่เป็นการชกในบ้านเกือบทั้งหมด โดยมีเพียงไฟต์เดียวที่บินไปชกนอกบ้าน นั่นคือการชกป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 6 ของตัวเองที่ประเทศญี่ปุ่นกับ ฮิโรกิ ไอโอกะ นักชกแดนปลาดิบ และแม้ว่าที่ผ่านมา แสนจะไม่เคยน็อคใครได้เลยในการชกป้องกันแชมป์ฟลายเวตของดับเบิลยูบีเอ แต่สำหรับหนนี้เขาคว่ำไอโอกะได้อย่างงดงามในยกที่ 10</span><span style="font-family:Arial;color:black;"><span lang="TH"><br /><br />หลังจากนั้นแสนก็เอาชนะคะแนน ชาง ยอง ซุน</span>,<span lang="en-us"> </span><span lang="TH">ลีโอ กาเมซ และอเล็กซานเดอร์ มาห์มูตอฟ ใน 3 ไฟต์ถัดมา ก่อนจะมาเสียแชมป์ให้กับ โฮเซ่ โบนินญ่า ในการป้องกันแชมป์วันที่ 24 พฤศจิกายน 2539 ที่จังหวัดอุบลราชธานี<br /><br />"ผมแพ้เพราะมีปัญหาน้ำหนักตัวมากไป และใช้วิธีการลดน้ำหนักผิดวิธี แต่ก็แพ้คะแนนค่อนข้างสูสี พอผลออกมาแพ้ก็มีเสียใจบ้าง แต่ก็รู้ว่าเราแพ้เพราะอะไร รู้ว่าทำเต็มที่ได้แค่ไหน ตอนนั้นเราพยายามทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่สภาพร่างกายเราจะทำได้แล้ว"<br /><br />"หลังจากนั้นไม่มีโอกาสกลับมาเป็นแชมป์อีกเลย ชกแต่อุ่นเครื่อง อุ่นจนแห้งคาหม้อ" ประโยคที่ออกจากปากของนักชกวัย 34 ปี ผู้นี้บอกถึงความรู้สึกภายในใจได้อย่างชัดเจนว่า อนาคตบนสังเวียนผ้าใบสิ้นสุดลงแล้ว และจะไม่มีวันหวนคืนกลับมาเหมือนเดิม<br /></span><br /></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;">"ตอนนั้นเป็นรองแชมป์อันดับ 1 อยู่ 2 ปี ได้แต่รอชิง แต่ก็ไม่มีสัญญาณว่าจะได้ชก ทำให้เกิดความลังเลว่าทำไมไม่ได้ชกซักที เราก็คิดว่าคงไม่ใช่แล้วเลยค่อยๆ ถอยออกมา"</span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />"จริงๆ ผมไม่ได้ประกาศออกมาว่าแขวนนวม แต่พอมาถึงจุด จุดนึงมันเริ่มเบื่อ เพราะสิ่งที่เราฝันไว้คาดหวังไว้ พอไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ก็กลายเป็นฝันร้าย ผมก็ค่อยๆ ห่างออกมา ไม่เกิดความรู้สึกอยากขึ้นชกอีกต่อไปแล้ว" </span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />หลังตัดสินใจหันหลังให้วงการมวย เจ้าตัวบอกว่า ยังไม่ได้คิดทำอะไร อยากพักเพื่อรักษาจิตใจกับร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิมเสียก่อน แต่ระยะหลังก็เริ่มมองว่าควรจะหยิบจับอะไรบ้าง เพราะเงินทองที่ได้มาในยุคเฟื่องฟูก็หดหายลงไป </span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />"ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บ มีแต่ซื้อที่ไว้ 1 แปลงเนื้อที่ 8 ไร่ ที่โคราช ราคาเกือบ 5 ล้านบาท ตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าจะเอาที่ดินไปทำอะไร คิดว่าเป็นการช่วยเหลือคนรู้จักกันเพราะช่วงนั้นที่ดินกำลังบูม และไม่ได้ปรึกษาใคร พอเจ้านาย(เสถียร เสถียรสุต) โทร.มาถามว่าจะเอาที่ดินไหมก็ซื้อเลย ไม่ได้คิด ไม่ได้เอะใจอะไร"<br /><br />ณ ตอนนี้ เวลาผ่านไปเกือบ 10 ปีแล้วแต่ที่ดินตรงนั้นก็ยังไม่มีอะไรงอกเงยขึ้นมา ทำให้เจ้าตัวรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เพราะรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้ซื้อ เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวเอง เวลานี้จึงได้แต่รอจังหวะและโอกาสที่จะแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ </span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />นอกจากซื้อที่ดินในราคาร่วมๆ 5 ล้านแล้ว สมบัติเป็นชิ้นเป็นอันอีกอย่างคือ บ้านหลังย่อมที่จังหวัดปทุมธานีในเนื้อที่ขนาด 48 ตารางวา เป็นบ้านที่ใช้เงินปลูกถึง 3 ล้านบาท ซึ่งถือว่าราคาสูงมากในสมัยนั้น(ปี 2540) และเป็นอีกครั้งที่แสนซื้อที่ดินเพราะช่วยคนที่รู้จักกัน กอปรกับอยู่ไม่ไกลจากบ้านเดิมในจังหวัดปทุมธานีด้วย ทำให้ตัดสินซื้อไว้โดยให้พ่อแม่และน้องชายอาศัยอยู่ ส่วนตัวเองพักอยู่กับภรรยาที่ปากเกร็ด</span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />"ชีวิตผมก็เรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา จะว่าลำบากก็ไม่เชิง พออยู่ได้ถ้าไม่ได้ฟุ่มเฟือยฟู่ฟ่ามากมาย บางทีจังหวะของคนก็ต้องรอเวลาและโอกาส แต่ตอนนี้เริ่มมีอะไรดีๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง มีงานทำเลยทำให้ไม่เครียด"<br /><br />แสนเล่าว่า ทุกวันนี้มีงานประจำทำเพราะพลตำรวจตรีเสวก ปิ่นสินชัย หยิบยื่นโอกาสให้ หลังจากได้ยินเรื่องราวของเขามาบ้าง จึงติดต่อให้เข้ามาเป็นเทรนเนอร์ที่ค่ายมวยได้ 2-3 เดือนแล้ว<br /><br />"ตอนนี้มองว่าชีวิตเริ่มจะดีขึ้นแล้วจากช่วงที่ผ่านมาไม่มีงานทำ ก็อาศัยถ่ายมิวสิควิดีโอให้เพื่อนที่รู้จักกันบ้าง ส่วนรายได้ทางอื่นก็ไม่มีแล้ว"<br /><br />พอถามว่า ได้ติดต่อกับเพื่อนนักมวยคนอื่นบ้างไหม เจ้าตัวบอกว่า "ไม่ค่อยได้คุยกับใคร คิดว่าปัญหาเขาก็หนักกันอยู่แล้ว บางทีไม่ต้องไปพูดเขาก็เข้าใจ เห็นสภาพของเราอยู่ เพราะมันก็มีกระแสข่าวออกมาบ้าง"<br /><br />ส่วนความช่วยเหลือจากคนในวงการเดียวกันมีเข้ามาบ้าง แต่จริงๆ แล้ว แสนบอกว่า นักมวยไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินเพียงแค่นิดหน่อย แต่อยากให้ประชาชนให้ความเหลียวแล และให้รัฐบาลให้ความเหลียวแลบ้าง<br /><br />"ผมมองว่าทำไมสวัสดิการต่างๆ ไม่มีให้นักมวยอาชีพบ้าง ถึงจะมองว่าคุณทำตรงนั้นคุณก็ได้รับเงินตอบแทนแล้ว ไม่ได้ทำฟรี แต่ขอถามย้อนกลับไปที่มวยสมัครเล่นบ้าง เพราะมวยสมัครเล่นได้รับการดูแลจากทางภาครัฐมากกว่า ผิดกับต่างประเทศที่มวยอาชีพมีเงินมีทองมีชื่อเสียง แต่เมืองไทยไม่ใช่อย่างนั้น" </span></span><br /><br />แม้ว่าในสายตาของนักชกผู้นี้จะมองว่า แชมป์โลกยิ่งใหญ่กว่า แต่ค่านิยมของคนไทยกลับมองว่าสิ่งไหนได้มายากจะมีคุณค่า ถ้าของสิ่งไหนได้มาง่ายจะด้อยคุณค่าลงไป<br /><br />"อย่างโอลิมปิคเราเคยได้มาไม่กี่เหรียญ ถือว่าได้ยากกว่าแชมป์โลก เพราะมวยโลกจัดกันทุกเดือน จนเดี๋ยวนี้คำว่าแชมป์โลกมันเสื่อมมนต์ขลังไปแล้ว"<br /><br />ณ วันนี้ แม้แสนจะไม่ได้เป็นแชมป์โลกที่จบชีวิตค้ากำปั้นอย่างสวยงามเหมือนอย่างนักชกรุ่นพี่คนอื่น แต่แสนเชื่อว่าเขาเป็นนักสู้คนหนึ่งที่สร้างตัวด้วยสองมือของตนเอง และเชื่อด้วยว่าหากยังไม่ตายจะต้องสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ได้<br /><br />"ผมขอบคุณทุกคนที่ยังนึกถึงผมอยู่ ผมก็ยังพอไปได้ ยิ้มได้ในบางครั้ง ร้องไห้บ้างในบางครั้ง ชีวิตมันก็อย่างนี้ ต้องต่อสู้กันต่อไป ขอให้เราสู้แล้วสักวันนึงจะต้องเป็นวันของเรา<br /><br /><br /><strong>แสน ส</strong><strong>.<span lang="TH">เพลินจิต</span> : <span lang="TH">ชีวิตที่เหลือของแสน</span></strong><br /><br />ข้อมูลจาก "<span lang="TH">แสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต</span> : <span lang="TH">ชีวิตที่เหลือของแสน" สัมภาษณ์โดย ปิยะวิทย์ เทพอำนวยสกุล นิตยสาร ฅ ฅน ฉบับที่</span> 3 <span lang="TH">มกราคม</span> 2549<br /><br />ฟ้าสาง ดาวสูญ<br /><br /><span style="font-family:Arial;color:black;">"<span lang="TH">แก่นจริงๆ มันอยู่ที่ความพอดี ไม่ใช่ว่าเป็นแช้มป์โลกแล้วต้องยืนอยู่บนหลังคาบ้าน ไม่ใช่อย่างนั้น คนเราจะรวยจะจน สุดท้ายมันก็ขี้เถ้ากองเดียว สุดท้ายก็ดินกลบหน้า</span>"<span lang="TH"><br /><br />นั่นเป็นประโยคสุดท้ายในการสัมภาษณ์</span> "<span lang="TH">แสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต</span>"<span lang="TH">อดีตแช้มป์โลกรุ่นฟลายเวตของสมาคมมวยโลก นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมเอามาขึ้นต้น</span>....<span lang="TH">ไม่ใช่อะไรอื่นเลย</span></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />เพียงเพราะว่าทุกวันนี้ผู้คนส่วนมากมักจะลืมหรือแกล้งไม่ใส่ใจกับประโยคสุดท้ายประโยคนี้</span><span style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />...<span lang="TH">ความจริงแล้วแง่มุมของชีวิตมีมากมายมหาศาล แก่นหรือหลักยึดของทุกคนก็ต่างกันไป แต่ถามว่าเราลืมหรือเปล่ากับสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ หรือเราลงไปครุ่นคิดกับมันมากน้อยเพียงไร</span>...<span lang="TH">ก็เท่านั้นเอง</span></span><span style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />...<span lang="TH">ย้อนกลับไปในวัยเด็กของแสน เขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่มักจะโดนเพื่อนๆรังแก ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องการวิชาเพื่อเป็นการป้องกันตัว หาใช่จะยึดถือเป็นอาชีพ หรือความฝันที่ว่าจะเป็นแช้มป์โลก<br /><br /></span>"<span lang="TH">พอหัดมวยซักพักเราก็มีความมั่นใจในตัวเอง ไปท้าเพื่อนชก ท้าชกเลย ตัวต่อตัว ผลแพ้ชนะมันไม่มีหรอก แต่มันแสดงให้เห็นว่าเราก็สู้ได้ หลังจากนั้นเพื่อนก็ไม่มาแกล้งหรือรังแกแล้ว</span>"<br /><br />...<span lang="TH">แสนเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า</span><br /><br />"<span lang="TH">พอคนเรามันทำอะไรซ้ำๆ ทุกวัน ทุกวัน มันก็ชอบไปเอง</span>"<span lang="TH"><br /><br />ช่</span>...<span lang="TH">การทำอะไรซ้ำๆ ทุกวันๆ อย่างน้อยมันก็จะซึมซับไปเอง ผมนึกแล้วก็คล้อยตาม และเห็นว่าถ้าคนที่ทำไม่ดีกับสังคม คนที่ฉ้อโกงเงินภาษีประชาชน ถ้าคนเหล่านั้นทำทุกวันๆ มันก็คงกลายเป็นความชอบ หรือกลายเป็นนิสัยที่แก้ได้ยาก และผมว่า มันเป็นท่าทีและอาการของการทำซ้ำที่น่ากลัว</span>...<br /><br />...<span lang="TH">แสนยังคงเล่าเรื่องของเขาในวัยเด็กต่อ และผมก็กลับมาสู่การสนทนา ละทิ้งความคิดตัวเองลงชั่วคราว<br /><br /></span>"<span lang="TH">ชกครั้งแรกก็ชนะเลย ดีใจมาก ได้เงินมา</span> 110 <span lang="TH">บาทให้แม่หมดเลย ตอนนั้นประมาณ</span> 8-9 <span lang="TH">ขวบ แต่ครั้งที่สองแพ้และก็มีการว่ากล่าว เราก็น้อยใจ เพราะว่าเราทำเต็มที่แล้ว อีกอย่างมวยที่เราแพ้</span><br /><span lang="TH">เขาชกมาก่อนเราตั้งนาน มีประสบการณ์มากกว่า เราชกมาแค่ครั้งเดียว เราก็เลยหยุดชกไป</span> 4-5 <span lang="TH">เดือนพอทำใจได้ก็กลับมาใหม่ กลับมาซ้อมเหมือนเดิม</span>"<br /><br />...<span lang="TH">อันที่จริงคำพูดที่ออกจากปากคนค่อนข้างละเอียดอ่อน แม้ว่าตอนนั้นเขายังเด็ก แต่อาการน้อยใจก็หาใช่ว่าจะจำกัดอายุของคน เขาเล่าว่ามันคล้ายกับตอนเสียแช้มป์ ที่มีคนพูดถึงขนาดว่า</span> "<span lang="TH">ล้มมวย</span>" <span lang="TH">หรือเปล่า</span>?<br /><br />...<span lang="TH">พอถามเขาว่า จำวันที่</span> 13 <span lang="TH">กุมภาพันธ์ ปี</span> 2537 <span lang="TH">ได้ไหม แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง เขาก็สวนขึ้นมาทันที วันนั้นเป็นวันที่เขาได้แช้มป์โลก และเป็นวันที่เขาไม่ลืมเช่นเดียวกับวันที่</span> 24 <span lang="TH">พฤศจิกายน ปี</span> 2539<br /><br />"13 <span lang="TH">กุมภาพันธ์ ปี</span>...37 <span lang="TH">ที่ฉะเชิงเทรา มัน</span>...<span lang="TH">ยังไงดีล่ะ</span>...<span lang="TH">วันนั้นผมรู้ว่าผมชนะ พอขึ้นไปยกแรกผมรู้ทันทีว่า</span>...<span lang="TH">ผมสู้ได้แน่นอน แต่คำว่าแช้มป์โลกเนี่ย</span>...<span lang="TH">ผมไม่คิด</span>! <span lang="TH">วันนั้นใครๆก็คิดว่าผมแพ้แน่ ไม่รอดแน่ สู้ไม่ได้เพราะผมเป็นรอง คนนี้แพ้เขาทราย แต่ว่ากว่าที่เขาทรายจะชนะได้ก็เหนื่อย<br /><br /></span>"<span lang="TH">การวางแผนวันนั้นทุกคนให้ผมเดินชก ให้บุก ให้ลุย ตอนซ้อมที่ค่ายผมก็ทำตามแผน แต่พอขึ้นไปบนเวทีจริงๆแล้ว มันไม่ใช่ มันเปลี่ยนไป แต่ผมคุยกับโค้ช เขาบอกว่า คุณอยากทำอะไรคุณทำ แล้วผมก็ทำตามที่ผมคิดและก็เชื่อ คือไม่เดินหน้าลุย ใช้จังหวะแย็บหนึ่งสอง ใช้ความเร็วหลบฉาก ใช้สายตา ทุกคนงงหมด แม้กระทั่งโปรโมเตอร์ทรงชัยเข้ามาบอกว่าให้ลุย ทำไมไม่เดินหน้า</span>?...<br /><br />..."<span lang="TH">ช่วงนั้นดูมวยเยอะมาก เปิดเทปดูกับโค้ชแล้วก็มาพูดคุยกัน อย่างไหนที่เหมาะกับตัวเองผมก็เอามาประยุกต์ใช้ อย่างไหนไม่เหมาะโค้ชก็จะบอก เราจะนั่งปรึกษากันเชื่อใจและให้เกียรติกัน<br /><br /></span>"<span lang="TH">พอกรรมการประกาศว่าเป็นแช้มป์โลก ผมก็แบบ</span>...<span lang="TH">เราเป็นแช้มป์โลกเหรอ กูเนี่ยนะแช้มป์โลก คือมันไม่ได้คิด คิดว่าชนะอย่างเดียว แต่คำว่าแช้มป์โลกไม่เคยคิดเลย ตอนอาบน้ำที่โรงแรมก็นอนแช่น้ำ</span> <span lang="TH">ตอนนั้นน้ำร้อนมาก แต่ผมไม่รู้สึกเลยว่ามันร้อน</span>"<span lang="TH"><br /><br />เขาร่ายยาวถึงวันที่ประสบความสำเร็จ จนผมถามเขาว่าเงินรางวัลครั้งนั้นได้เท่าไหร่</span>?<br /><br />"<span lang="TH">ไม่รู้ว่าได้เท่าไหร่ หัวหน้าค่ายมวยรับมา ผมได้</span> 25% <span lang="TH">จากทั้งหมด</span>"<span lang="TH"><br /><br />ผมถาม</span>"<span lang="TH">จี้</span>"<span lang="TH">ว่าประมาณเท่าไหร่</span>?<br /><br />"<span lang="TH">ผมยังไม่รู้เลยว่าค่าตัวผมเท่าไหร่ แต่คงได้น้อย เพราะไฟต์ชิงแช้มป์โลก โปรโมเตอร์ต้องลงทุน ต้องจ้างแช้มโลก ต้องจ้างกรรมการ</span>"<br /><br />...<span lang="TH">ผมนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถามเขาว่าจำครั้งที่อุบลฯได้ไหม</span>?<br /><br />"<span lang="TH">อ๋อ</span>!...<span lang="TH">เสียแช้มป์ที่อุบลฯวันที่</span> 24 <span lang="TH">พ</span>.<span lang="TH">ย</span>.39 <span lang="TH">วันนั้น</span>...<span lang="TH">เราก็รู้ตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าเราเป็นรอง เพราะเรามีปัญหาเรื่องน้ำหนักที่ยังเกินอยู่ จนต้องกินยาถ่าย มันไม่มีแรง ซึ่งมันเป็นวิธีที่ผิด โค้ชก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเชื่อใจและให้เกียรติในการตัดสินใจ มันเป็นทางออกสุดท้ายแล้วในตอนนั้น แต่ก็ยังมีความมั่นใจอยู่นะ</span>"<br /><br />"<span lang="TH">วันนั้นถ้า</span>...<span lang="TH">ถ้า</span>...<span lang="TH">ตัดสินแบบชาตินิยม เข้าใจนะ ชาตินิยม</span>! <span lang="TH">ผมชนะได้ แต่ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยโกงโคร เรื่องน้ำหนักตัวเขาก็บอกว่าซิกแซ็กได้ แต่ผมบอกว่าผมทำได้ ผมไม่อยากโกง สุดท้ายเราก็เข้าใจ เราเตรียมตัวน้อยกว่าเขา มีปัญหามากกว่าเขา ทีมงานก็ปลอบใจ เราทำเต็มที่แล้ว ไม่เป็นไร เราไม่โกงเขา เราไม่โกงตัวเอง</span>"<br /><br />...<span lang="TH">เขาย้ำคำว่า</span>"<span lang="TH">เราไม่โกงตัวเอง</span>"<span lang="TH">อยู่</span> 3 <span lang="TH">ครั้ง จนทำให้ผมเกิดความรู้สึกร่วมไปกับเขาด้วย</span>...</span><span style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />"<span lang="TH">เสียงวิจารณ์ก็มีหลายกระแส มีแม้กระทั่งว่าผมล้มมวย ผมก็ตอบกลับไปว่า ไม่จริง ผมทำเต็มที่แล้ว แต่กรรมการตัดสินให้ผมแพ้ ก็แค่นั้นเอง </span>(<span lang="TH">หัวเราะ</span>)"</span><span style="font-family:Arial;color:black;"><br /><br />...<span lang="TH">แสนเป็นแช้มป์ตอนอายุ</span> 23 <span lang="TH">ปี แต่เข็มขัดอยู่กับเขาแค่</span> 2 <span lang="TH">ปี</span>...<span lang="TH">ผมถามว่าในช่วง</span> 2 <span lang="TH">ปีนั้นมีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง<br /><br /></span>"<span lang="TH">เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมาก มันก็ยังไงดีล่ะ</span>...<span lang="TH">แท็กซี่บางคันไม่เอาเงินแต่ขอลายเซ็นผมแทน ผมเกรงใจเหมือนกันนะ ร้อยกว่าบาทแน่ะ</span> 2 <span lang="TH">ปีถามว่าสบายไหม</span>? <span lang="TH">ก็สบายดี แต่มันก็เหมือนเดิม ต้องซ้อมมวยอยู่ แต่ว่าการใช้จ่าย มันก็คล่องขึ้น มีชื่อเสียง มีเงินทอง และอะไรอีกหลายๆอย่าง เข้ามาในชีวิต</span>"<br /><br />...<span lang="TH">เขาบอกว่า</span> 2 <span lang="TH">ปีนั้นเขาไม่รู้เรื่องเงินเลย ผมจึงถามเขาอย่างตรงๆว่า แล้วใครเป็นคนเก็บเงิน<br /><br /></span>"<span lang="TH">ก็เจ้านาย ผมก็เบิกมาใช้เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน แต่เราไม่รู้ว่าทั้งหมดได้มาเท่าไหร่ แต่ตอนหลังมารู้ เพราะมีการพูดคุยกันระหว่างค่ายกับโปรโมเตอร์ ถึงการแยกเส้นทางเดิน เลยมีการชี้แจงตัวเลข คือตั้งแต่ผมอุ่นเครื่องจนถึงเป็นแช้มป์และเสียแช้มป์ ประมาณ</span> 2-3 <span lang="TH">ปี ทั้งหมดยังไม่หักอะไรเลย ค่าตัวผม</span> 40 <span lang="TH">กว่าล้านบาท ประมาณ</span> 45-48 <span lang="TH">ล้าน จำไม่ได้</span>"<span lang="TH"><br /><br />เขาย้ำกับผมว่า</span> 40 <span lang="TH">กว่าล้านบาท</span> 3 <span lang="TH">ครั้ง<br /><br /></span>"<span lang="TH">แต่เราก็ไม่ได้มาก้อนเดียวทั้งหมด มันค่อยๆจ่าย แต่ว่าผมได้</span> 25%"<br /><br />"<span lang="TH">ผมชกมวยด้วยความสุข แต่พอเข้าไปในระบบธุรกิจ</span>...<span lang="TH">มันเบื่อ</span>! <span lang="TH">ผมบอกกับโปรโมเตอร์ว่า อยากชกกับใครก็ได้ที่เก่งๆ แต่ในความเป็นจริงมันทำไม่ได้ เพราะเหตุผลทางธุรกิจ อีกอย่างถ้าเราแพ้ขึ้นมาก็จบ เขาต้องการถนอมเราไว้ ใช่</span>...<span lang="TH">เราปฏิเสฐเงินไม่ได้ แต่</span>..<span lang="TH">มันไม่ใช่ทั้งหมด</span>"<br /><br />...<span lang="TH">และกับปัจจุบัน เขาทำอะไรอยู่ ชีวิตจากเดิมที่เป็นที่รู้จัก แต่กลับกลายว่าเป็นใครก็ไม่รู้ เขาคิดยังไง</span>? <span lang="TH">ผมอยากรู้</span>..<br /><br />"<span lang="TH">ทุกวันนี้ยังล่องลอยอยู่ ก็รับงานไปเรื่อยๆ รายได้มันก็ไม่แน่นอน มีช่วงนึงไปเล่นหนังวีซีดี ช่วงก่อนเป็นอาจารย์พิเศษสอนมวยที่วิทยาลัยพละกรุงเทพ และก็มีเล่นมิวสิคให้ พรศักดิ์ ส่องแสง</span>"<br /><br />"<span lang="TH">มันอยู่ที่ความพอดีของคน และอยู่ที่อีโก้ของคน ถ้าเราตัดอีโก้ออกมันก็จะสบายขึ้น เมื่อก่อนมีเงินในกระเป๋าไม่ถึง </span>500 <span lang="TH">จะไม่กล้าไปไหน แต่เดี๋ยวนี้มี</span> 20 <span lang="TH">ก็ออกจากบ้านได้</span>"<br /><br />...<span lang="TH">อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดไปได้ ผมถามเขา<br /><br /></span>"<span lang="TH">ผมคิดว่า</span>...<span lang="TH">เพราะพ่อผม ตอนนั้นนั่งเครียดอยู่ที่บ้าน มันมีแต่ปัญหา พ่อเดินมาตบไหล่แล้วบอกว่า ไอ้เหน่ง เอ็งไม่ดีใจเหรอวะ จากที่ไม่มีจะแดกแล้วมีหนี้เป็นล้านได้</span>... <span lang="TH">ตอนนี้ผมก็ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ขอให้เป็นงานสุจริต และมีหนี้อยู่ประมาณหกแสนแต่เป็นหนี้ที่เราไม่สมควรจะเป็น</span>"<br /><br />...<span lang="TH">หนี้ที่ว่ามาจากการไปค้ำประกันให้กับเพื่อน โดยเอาที่ดินที่ซื้อตอนเป็นแช้มป์ไปวางไว้ แล้วไปๆ มาๆ เพื่อนคนนั้นก็หายไป สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ต้องแบกรับภาระ<br /><br /></span>...<span lang="TH">ทุกวันนี้ถ้ามีคนถามว่า แสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต ประกอบอาชีพอะไร แสนจะตอบว่า<br /><br /></span>"<span lang="TH">ขอเปลี่ยนคำถามได้ไหม ถามว่าตอนนี้หาเงินมาจากไหนดีกว่า</span>(<span lang="TH">หัวเราะ</span>)"<br /><br />...<span lang="TH">เพราะว่างานที่เขาทำมันหลายอย่างและเป็นอย่างที่เขาพูดไว้ว่า<br /><br /></span>"<span lang="TH">ความตั้งใจก็คือ เอาตัวเองและครอบครัวให้รอด งานอะไรที่สุจริตผมทำหมด ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทำทุกอย่างที่จะหาเงินได้โดยสุจิต</span>..<span lang="TH">ก็มีท้อบ้าง แต่ไม่เคยถอย คนถอยคือคนที่ตายแล้ว</span>"<br /><br />"<span lang="TH">เวลาชกมวยมันก็มีช่วงของมัน เราหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ลุยเข้าไปต่อย ๆ ๆ พอเหนื่อยเราก็หลบออกมา พอหายใจเข้าไปใหม่ เราก็เดินหน้าสู้ต่อไป ชีวิตมันก็เหมือนการชกมวย มี</span> 12 <span lang="TH">ยก</span></span><span style="font-family:Arial;color:black;"> </span><span lang="TH" style="font-family:Arial;color:black;">แต่เราไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ยกที่เท่าไหร่ ระฆังยังไม่ดัง เราหยุดไม่ได้</span><span style="font-family:Arial;color:black;">" </span><br /><br />...<span lang="TH">เขายังเล่าต่อด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่มีความสิ้นหวังหรือความทุกข์ที่แสดงออกทางสายตาเลย<br /><br /></span>"<span lang="TH">ผมได้เข้าเฝ้าในหลวง สมเด็จพระสังฆราช และตอนที่ผมบวช หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุเป็นผู้บรรพชาให้ และที่ผมไม่เคยบอกใคร ผมได้จับมือพระสันตะปาปา แต่ไม่ใช่เป็นการส่วนตัวนะ ตอนนั้นไปที่วาติกัน ไปยืนดูตอนแรกว่าจะถ่ายรูป แต่เปลี่ยนใจ เดินเข้าไปจับมือ ผมถือว่าโอเค ดีมากๆ สำหรับชีวิต</span>"<br /><br />"<span lang="TH">เงินมันเป็นยานพาหนะที่พาเราไปหาสิ่งอื่นๆ ถ้าไม่มีผมก็เดิน แต่ว่าเดินมากๆมันก็เมื่อย มันก็ต้องมีบ้าง</span>(<span lang="TH">หัวเราะ</span>) <span lang="TH">แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต</span>"<br /><br />..<span lang="TH">สุดท้ายแล้วแม้ว่าเส้นกราฟชีวิตของแต่ละคน จะมีขึ้นมีลงไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยความสุขในชีวิต เราเท่านั้นที่เป็นคนเลือกและเป็นคนกำหนด<br /><br /></span>...<span lang="TH">ผมลาอดีตแช้มป์โลกว่า</span>" <span lang="TH">เดี๋ยวผมกลับเลยนะครับพี่ ขอบคุณมากครับ</span>"<span lang="TH"><br /><br />แสนทำท่าจริงจังและถามว่า</span> "<span lang="TH">กลับเลยหรือ ไกลนะ</span>..."<span lang="TH"><br /><br />ผมหัวเราะ</span>...<span lang="TH">และมันเป็นเสียงหัวเราะจริงๆ แม้ว่าจะไม่น่าหัวเราะเท่าไหร่ แต่ความสุขในชีวิตที่ทุกคนถวิลหา คือเสียงหัวเราะ มิใช่หรือ</span>?<br /><br />...<span lang="TH">ก่อนลา วูบหนึ่งผมนึกถึงคำพูดสุดท้ายของเขา ที่เป็นประโยคขึ้นต้นบมสัมภาษณ์นี้</span><br /><br /><strong><span lang="TH">ขอบคุณ</span>...<span lang="TH">แสน ส</span>.<span lang="TH">เพลินจิต</span></strong></span></span></span></span></span></span></span></p><p></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-70318752760144805092008-08-12T15:48:00.000+07:002008-08-12T15:57:17.779+07:00ลิงลม พ.ธวัชชัย<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/lingLom.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย</span><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><span style="color:#000000;"> </span></span><span style="color:#000000;">ลิงลม พ.ธวัชชัย</span></span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span></span></span></strong></span><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">ส</span>มบูรณ์<span lang="th"> </span>ศรีบุญชัย</span></span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">1</span>0 กรกฎาคม 2519</span></span></strong></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span></span></span></strong></span><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;">จ. บุรีรัมย์</span></span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">1</span>0-3-0<span lang="en-us">; </span>3</span></span></strong></span><span lang="en-us"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">KO</span><br /></span></span></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></strong></span><span lang="en-us"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span></span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">แชมป์ไลต์ฟลายเวต <span lang="en-us">PABA </span>เฉพาะกาล<span lang="en-us"> </span>(2541)</span></strong><span lang="en-us"><br /></span><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">แชมป์จูเนียร์ฟลายเวต </span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">WBF (</span>2541-2543<span lang="en-us">)</span></span></span></strong></span></span><span style="color:#0000ff;"><br /><br /></span></p><p align="justify"><span style="font-family:arial;color:#000000;">ลิงลมเป็นนักชกอีกรายหนึ่งในสังกัดเกียรติกรีรินทร์ในยุคแรกๆ ขึ้นชกครั้งแรกก็เดินทางไปแพ้ KO8 ให้กับ โดบรคิ อาร์เตอร์ ถึงประเทศอินโดนีเซีย หลังจากนั้นก็กลับมาอุ่นเครื่องชนะรวด 3 ครั้ง จึงได้ขึ้นชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต PABA ที่ว่างกับ ยูร่า ดิม่าร์ นักชกมองโกเลีย ในวันที่ 20 มีนาคม 2541 และก็เอาชนะคะแนนคว้าแชมป์แรกมาครองได้สำเร็จ<br /><br />ต่อมา</span><span style="font-family:arial;color:#000000;">เขา<span lang="th">ได้</span>ขึ้นครองแชมป์จูเนียร์ฟลายเวต <span lang="en-us">WBF </span>ด้วยการ<span lang="th">เอา</span>ชนะคะแนน โรแลนโด้ <span lang="th">โทโย</span>กอน แชมป์จากฟิลิปปินส์ จากนั้นเขาป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 3 ครั้ง ก่อนจะสละตำแหน่งไปโดยไม่เสียให้ใคร ในปี 2543 เพราะสถาบัน WBF ไม่ได้รับความนิยมในเมืองไทยอีกต่อไป<br /><br />หลังจากนั้นลิงลม<span lang="th">ยังขึ้น</span>ชกชนะรวดในเมืองไทยอีก 2 ไฟต์ ก่อนที่จะบินไปแพ้คะแนน อนิส โรก้า ที่อินโดนีเซีย และต่อมา<span lang="th">บิน</span>ไปแพ้น็อคยก 4 โคเฮอิ (พรอสเปอร์) มัตสุอูร่า ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2545 หลังจากนั้นก็แขวนนวมไปในที่สุด<br /><br />(ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก)</span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-58792129738616960692008-08-12T15:39:00.000+07:002008-08-12T15:40:51.362+07:00สุวัจน์ชัย นครหลวงโปรโมชั่น<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/suWatchai.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /><strong><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย</span><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span> </span><span style="color:#000000;">สุวัจน์ชัย นครหลวงโปรโมชั่น</span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-size:100%;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span></span></strong></span><strong><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">ส</span>ายันห์ อุ้ยเลิศ</span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span></strong></span><strong><span style="font-size:100%;"> <span style="color:#000000;"><span lang="en-us">1</span>7 พฤศจิกายน<span lang="en-us"> </span>2512</span></span></strong><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="font-size:100%;color:#000000;"><strong>อ. บัวใหญ่, จ. นครราชสีมา</strong></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span></span></strong></span><strong><span style="font-size:100%;"> </span></strong><span lang="en-us"><strong><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">17-11-1; 8KO</span><br /></span></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-size:100%;">เกียรติยศ</span></strong></span><strong><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต </span></span></strong><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">WBU</span> (2539-2540)<br />แชมป์ซูเปอร์ฟลายเวตเฉพาะกาล <span lang="en-us">WBU</span> (2540)<br /><br /></span></strong><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:Arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="TH">สุวัจน์ชัยแรกทีเดียวเป็นมวยที่มีสถิติแพ้บ่อยครั้ง แต่ต่อมาเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นเมื่อมาอยู่ในสังกัด </span>“<span lang="TH">นครหลวงโปรโมชั่น</span>” <span lang="TH">และเมื่อได้โอกาสชิงแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต</span> WBU <span lang="TH">ที่ว่างกับ ออสวัลโด้ วาเลนซูเอล่า นักมวยขี้แพ้ชาวเม็กซิกันเขาก็เอาชนะน็อคยก</span> 3 </span><span style="font-size:100%;"><span lang="TH">ได้แชมป์มาครองอย่างง่ายดาย เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2539<br /><br />สุวัจน์ชัยป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง ก็ถูกลดเกรดลงมาให้เป็นเพียงแชมป์เฉพาะกาลด้วยเหตุผลใดไม่ปรากฏ และทาง</span> WBU <span lang="TH">ได้อนุมัติให้ ลุยจิ คาสติกลิโอเน่ นักชกอิตาลี่ชิงแชมป์จริงที่ว่างได้สำเร็จและได้ส่งให้สุวัจน์ชัยไปชกเพื่อหาแชมป์เพียง</span> 1 <span lang="TH">เดียว แต่สุวัจน์ชัยก็สู้หน้าเสื่อไม่ไหวพ่ายคะแนนอย่างบอบช้ำทั้งใจและกาย เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2540 และไม่เหลือตำแหน่งอะไรอีกเลย </span></span></span><span lang="TH" style="font-family:Arial;"><br /><br /><span style="font-size:100%;">เขาขึ้นชกอีกครั้งเดียวแพ้คะแนนให้กับ โผน แสงมรกต จากนั้นก็เลิกชกมวยไปโดยปริยายในปีต่อมา</span></span><span style="font-family:Arial;"><br /><br /><span style="font-size:100%;">(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก</span>)</span></span></span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-43774990578093413642008-08-12T15:34:00.002+07:002008-08-12T15:38:35.896+07:00หยกไทย ศิษย์ อ.<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/yokThai.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#0000ff;">ชื่อนักมวย</span><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span> </span><span style="color:#000000;">หยกไทย ศิษย์ อ.</span></span></span></strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><br /><br /></span><strong><span style="color:#0000ff;">ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </span><span style="color:#000000;"><span lang="en-us">ม</span>านิตย์ กลิ่นมี</span></strong></span></span><span lang="en-us" style="font-family:arial;font-size:100%;"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">2</span>5 ธันวาคม 2517</span></span></strong></span><span lang="en-us" style="font-family:arial;font-size:100%;"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span style="font-family:arial;font-size:100%;color:#000000;"><strong>จ. ชลบุรี</strong></span><span lang="en-us" style="font-family:arial;font-size:100%;"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span></strong></span><span lang="en-us"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span style="color:#000000;">29-6-3; 18KO</span><br /></span></span></strong></span><span style="color:#0000ff;"><br /><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">เกียรติยศ</span></strong></span><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us"><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></span><span style="color:#000000;">แชมป์ซูปอร์ฟลายเวต </span></span></span></strong><span style="color:#000000;"><strong><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="en-us">PABA (2538-2539)<br /></span>แชมป์ซูปอร์ฟลายเวต <span lang="en-us">WBA (253</span>9</span></span></strong><span lang="en-us"><strong><span style="font-family:arial;font-size:100%;">-2540<br /><br /></span></strong><p align="justify"><span style="color:#000000;"><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="TH">หยกไทยพกสถิติชนะรวด 4 ไฟต์ขึ้นชิงแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต </span>PABA <span lang="TH">ที่ว่างกับนักชกรัสเซียจอมแพ้ อิลชาท ทัควาทูลิน และหยกไทยก็เอาชนะ </span>TKO10 <span lang="TH">ได้ครองแชมป์เส้นแรกในชีวิตเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2538 เขาป้องกันตำแหน่งได้ 1 ครั้งกับชนะรวดอีก 5 ครั้งก็ก้าวขึ้นเป็นรองแชมป์โลกอันดับสูงของ </span>WBA<br /><br /><span lang="TH">ในวันที่ 24 สิงหาคม 2539 หยกไทยก็ก้าวขึ้นเป็นแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต</span> WBA <span lang="TH">อย่างสมภาคภูมิด้วยการทิ่มหมัดซ้ายหมัดเดียวเข้าพุงกะทิของ อลิมี่ กอยเตีย ส่งแชมป์เก่าจากเวเนซูเอล่าถึงแพ้น็อคไปในยกที่</span> 8 <span lang="TH">เขาป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ทั้งสิ้น</span> 4 <span lang="TH">ครั้งก่อนที่จะพลาดท่าพ่ายคะแนน ซาโตชิ อิดะ คู่ปรับเก่าที่เคยเสมอกันมาแล้วครั้งหนึ่งในการป้องกันแชมป์โลกครั้งที่ 3 ทำให้เขาเสียแชมป์ไปในการป้องกันครั้งที่</span> 5 </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="TH">นี้เอง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2540 ที่ประเทศญี่ปุ่น<br /><br />หยกไทยกลับมาทำฟอร์มสวยได้หลายครั้งก่อนที่จะขึ้นชิงแชมป์เส้นเดิมกับเจ้าของตำแหน่งคนใหม่ ฮิเดกิ โทดากะ ที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนที่จะพ่าย</span> TKO 11 <span lang="TH">ชวดแชมป์สมัยที่</span> 2 <span lang="TH">ไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2543 แถมไฟต์ต่อมาก็แพ้คะแนนนอกรอบต่อ คัตสุเกะ คาวาชิม่า</span> (<span lang="TH">ซึ่งต่อมาได้เป็นแชมป์รุ่นเดียวกันของ</span> WBC) </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="TH">จนเกือบหมดอนาคต<br /><br />หยกไทยกลับมาชกชนะรวดในเมืองไทยอีก</span> 5 <span lang="TH">ครั้งก่อนจะไปชนะที่ญี่ปุ่นอีก</span> 1 <span lang="TH">ครั้ง เสมอ</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง และแพ้</span> 2 <span lang="TH">ครั้ง ไฟต์ล่าสุดหยกไทยขึ้นชกในเมืองไทยในสภาพที่ไม่สมบูรณ์กับนักชกโนเนมจากฟิลิปปินส์ เจโรม อลองโซ่ และก็ถูกต่อยจนจุกแพ้</span> TKO 3 </span></span><span style="font-family:arial;"><span style="font-size:100%;"><span lang="TH">ไปชนิดไม่มีใครคาดฝัน และเขวนนวมไปโดยปริยาย ในกลางปี 2547 นั่นเอง<br /><br /></span>(<span lang="TH">ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารมวยโลก</span>)</span></span></span></span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1330925456324829391.post-88542714978751984192008-08-12T15:30:00.000+07:002008-08-12T15:32:46.307+07:00สมาน ส.จาตุรงค์<p align="center"><img style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" height="338" src="http://boxingboy.webng.com/saMan.jpg" width="225" border="2" /><b><span style="font-size:85%;color:#0000ff;"><br /></span></b><span style="font-family:Arial;font-size:100%;"><br /></span><span style="font-family:Arial;"><span style="color:#0000ff;"><strong>ชื่อนักมวย<span lang="en-us">: </span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong>สมาน<span lang="en-us"> </span>ส.จาตุรงค์<br /></strong></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><strong>ชื่อจริง<span lang="en-us">:</span> </strong></span><span style="color:#000000;"><strong><span lang="en-us">ส</span>มาน ศรีประเทศ<br /></strong></span><span lang="en-us"><br /></span><strong><span style="color:#0000ff;">วันเดือนปีเกิด<span lang="en-us">:</span></span> </strong><span style="color:#000000;"><strong><span lang="en-us">2</span> สิงหาคม 2512<br /></strong></span><span lang="en-us"><br /></span><span style="color:#0000ff;"><strong>ภูมิลำเนา<span lang="en-us">:</span></strong></span><span style="color:#000000;"><strong> อ. กำแพงแสน, จ. กำแพงเพชร<br /></strong></span><span lang="en-us"><br /></span><strong><span style="color:#0000ff;">สถิติ<span lang="en-us">:</span> </span><span style="color:#000000;"><span lang="en-us">4</span>6-<span lang="th">8</span>-1</span></strong><strong><span lang="en-us"><span style="color:#000000;">; 35KO<br /></span><br /></span><span style="color:#0000ff;">เกียรติยศ</span></strong><span lang="en-us"><strong><span style="color:#0000ff;">:</span><br /></strong></span><span style="color:#000000;"><strong>แชมป์ไลต์ฟลายเวต <span lang="en-us">WBC</span> (</strong><strong><span lang="en-us">2538-2542)<br /></span>แชมป์จูเนียร์ฟลายเวต </strong></span><span style="color:#000000;"><span lang="en-us"><strong>IBF (2538)<br /><br /></strong><p align="justify"><span style="font-family:Arial;">สมาน ส.จาตุรงค์ เจ้าของฉายา "หมานข้าวมันไก่" เพราะเปิดร้านขายข้าวมันไก่ไปด้วยชกมวยไปด้วย ชิงแชมป์สตรอว์เวต (มินิมั่มเวต) WBC ไม่สำเร็จแพ้น็อคยก 2 ริคาร์โด้ โลเปซ ยอดมวยชาวเม็กซิโกในการชิงแชมป์โลกครั้งแรก แต่ต่อมาเขาก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ช็อคโลกด้วยการเอาชนะน็อค ฮุมเบอร์โต้ กอนซาเลซ แชมป์โลกชื่อดังชาวเม็กซิกันที่คาลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2538 ชนิดที่ตัวเองถูกต่อยนับก่อน 2 ครั้ง และถูกถลุงจนตาปิดจนกรรมการจะจับแพ้อยู่แล้วหลังหมดยก 6 แต่ยอดผู้จัดการ สหสมภพ ศรีสมวงศ์ ขอร้องกรรมการว่าขออีกยกเดียวเท่านั้นพร้อมทั้งกระตุ้นศิษย์รักให้ออกไปแลกหมัดชนิดลืมตาย และก็ได้ผลสมานต่อยเอากอนซาเลซแตกเละหงายท้องขาชี้ฟ้าถูกนับ 8 ก่อนจะรุกไล่ต่อยข้างเดียวจนกรรมการทนดูไม่ได้จับกอนซาเลซซึ่งหมดสภาพแพ้ไปในที่สุด ยังผลให้สมานแย่งแชมป์ไลต์ฟลายเวต WBC และจูเนียร์ฟลายเวต IBF มาครองได้ทั้ง 2 สถาบัน<br /><br />สมานป้องกันแชมป์ 2 เส้นเอาไว้ได้ครั้งเดียวก็ต้องสละเข็มขัดของ IBF ไปด้วยเหตุผลว่าทางคุณสหสมภพต้องการแสดงความภักดีต่อ WBC เพียงสถาบันเดียวเท่านั้น สมานจึงขึ้นป้องกันแชมป์ WBC เพียงอย่างเดียวต่อไปได้อีก 9 ครั้ง ก่อนที่จะพลาดท่าเสียแชมป์ให้ โย ซัม แช จากเกาหลีใต้ด้วยการชกที่สกปรกของผู้ท้าชิงที่ใช้หัวโขกตลอดเวลาจนต้องแพ้คะแนนไปในที่สุด เมื่อ 17 ตุลาคม 2542<br /><br />อย่างไรก็ดีสมานได้โอกาสชิงแชมป์คืนอีกครั้งในวันที่ 30 มกราคม 2544 แต่คราวนี้สมานถูกแชถลุงจนจับแพ้ TKO 7 ไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นสมานบินไปชกชนะที่ญี่ปุ่น 1 ครั้งก่อนจะมาแพ้คะแนนนักมวยฟิลิปปินส์ เวนเดล จานิโอล่า คาบ้าน และหลังจากนั้นสมานก็ไม่ได้ขึ้นชกอีก แต่เปิดร้านข้าวมันไก่ที่หมู่บ้านฟ้าลากูนย่านรังสิต และมีความสุขตามอัตภาพ<br /><br />คงจะไม่มีใครเชื่อว่าวันนี้ "หมาน"จะตัดสินใจวกกลับมาสวมนวมใส่รองเท้าขึ้นสังเวียนในวัยที่ใกล้ 37 ปี อีกครั้งเมื่อ 22 ก.พ. 48 ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ร้างเวทีไปหลายปี ซึ่งผลถูกนักชกรุ่นน้องอย่าง เดวิด นครหลวงโปรโมชั่น เอาชนะ TKO ไปในยกที่ 4<br /><br />ภาพความพ่ายแพ้ของ สมาน ส.จาตุรงค์ ที่มีต่อนักชกรุ่นน้องในวันนั้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายต่างๆ นานา ว่า เปรียบเสมือน"หมาล่าเนื้อ" หรือชกเพื่อหาเงินเลี้ยงเท่านั้น<br /><br />เรื่องนี้ "หมาน" เปิดอกเล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่า จริงๆแล้วหลังที่เสียเข็มขัดก็ยังซ้อมเพื่อหวังจะแก้มือ แต่ถูกผู้จัดเล่นแง่เลื่อนไปเรื่อย ประกอบกับ "พี่อึ่ง" เสียชีวิตจึงทำให้ความหวังล้มเหลว จนต้องตัดสินใจเลิกชกและมาจับธุรกิจขายข้าวมันไก่ย่านรังสิต ซึ่งก็ถือว่าไปได้สวย ก่อนที่จะมาเกิดผลกระทบพิษ "ไข้หวัดนก" จึงต้องเปลี่ยนแผนย้ายสถานที่ไปขายแถวบ้านพักแทน เพราะไม่คุ้มค่าใช้จ่าย<br /><br />ส่วนสาเหตุที่ต้องกลับมาชกมวยอาชีพอีกครั้ง เรื่องนี้ "หมาน" ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะ และที่สำคัญยังเชื่อว่ายังไหวกับการชก และทาง "เสี่ยฮุย" สุชาติ พิสิษฐวุฒินันท์ ได้เปิดโอกาสเพื่อให้พิสูจน์ฝีมือ แม้จะได้ค่าตัวไม่เหมือนสมัยที่เป็นแชมป์โลกแต่ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่มากในระดับหนึ่ง เพราะสามารถนำไปใช้จ่ายค่าเล่าเรียนลูกเป็นปีๆ<br /><br />"ถามว่าแค่เพียงการประเดิมสังเวียนก็แพ้น็อกจะเลิกชกหรือเปล่า เรื่องนี้ตนบอกตามตรงไม่มีผลแต่อย่างใด กลับมุ่งมั่นและอยากจะพิสูจน์ตัวเองอีกโดยทางผู้จัดการ "เสี่ยฮุย" จะให้ขึ้นชกในวันที่ 16 เม.ย.นี้กับนักมวยฟิลิปปินส์ในพิกัด 112 ปอนด์ร่วมรายการ "วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น" ชกป้องกันแชมป์ ซึ่งหากฟอร์มยังแย่ก็อาจจะทบทวนตัวเอง"<br /><br />"สมาน" ยังเล่าถึงชีวิตส่วนตัวให้ฟังต่อไปว่า ก็มีความสุขกับชีวิตครอบครัวตามอัตถภาพ มีภรรยาย "น้องติ๊ก" ปาริชาติ ศรีประเทศ คอยดูแลอย่างดี แถมมีลูกสาว "น้องมายด์" ชัญญานุช อายุ 6 ขวบ คอยให้กำลังใจ วันนี้ตนไม่ได้คาดหวังกลับมาเป็นแชมป์โลก แต่ต้องการทำให้แฟนมวยเห็นว่าอายุนั้นเป็นเพียงตัวเลข<br /><br />ทุกวันนี้ก่อนที่จะกลับมาชกมวยอีกครั้งว่างๆ ก็ไปออกรอบตีกอล์ฟกับพรรคพวก แม้ใครจะมองว่าเป็นกีฬาของคนมีเงิน แต่สำหรับตนเองกลับไม่คิดเช่นนั้น สาเหตุที่เล่นก็เพื่อฝึกสมาธิ และออกกำลังกายไม่เคยมีเรื่องของการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย!<br /><br />สิ่งหนึ่งที่ "หมาน" ได้บอกกล่าวและถือเป็นความฝันที่เขาอยากจะทำนั่นก็คือธุรกิจ "ร้านข้าวมันไก่" ซึ่งอยากจะทำแบบเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้เรียนรู้ประสบการณ์มาพอสมควร คาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะลงตัว<br /><br />ก็นับเป็นอีกหนึ่งนักกีฬาอาชีพที่มีจุดยืน และมีความฝันของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ส่วนเขาจะทำได้แค่ไหนเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์!!<br /><br />สมานได้เข้ามาชกในการของนครหลวงโปรโมชั่นแล้ว แต่ก็แพ้คะแนน 6 ยก โรเดล ควิลาตั้น นักมวยฟิลิปปินส์แบบถูกนับ 2 ครั้ง และล่าสุดเขาก็เดินทางไปอุ่นเครื่องให้นักชกหนุ่มห้าว โคขิ คาเมดะ ที่ญี่ปุ่น และก็ถูกทุบแพ้ TKO แค่ยกแรกเท่านั้น เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 48 จากนั้นก็ประกาศแขวนนวมไปอย่างถาวร<br /><br />(บางส่วนจากคอลัมน์ "วันนี้ของ "สมาน ส.จาตุรงค์" ชกมวย-ข้าวมันไก่และตีกอล์ฟ" โดย แดง ตานี นสพ.ข่าวสด ฉบับที่ 5206 วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2548 ปีที่ 14, ต้นฉบับภาพประกอบจากเว็บไซด์ต่างประเทศ)</span></span></span></span></p>Unknownnoreply@blogger.com