วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น



ชื่อนักมวย: วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น

ชื่อจริง:
ีระพล สำราญกลาง

วันเดือนปีเกิด:
16 พฤศจิกายน 2510

ภูมิลำเนา:
จ. สระบุรี

สถิติ:
61-4-2; 43KO


เกียรติยศ
:
แชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต
WBC International (2537-2538)
แชมป์แบนตั้มเวต
WBA (2538-2539)
แชมป์แบนตั้มเวต WBC (2541-2548)


วีระพล หรือชื่อจริง
"ธีระพล สำราญกลาง" เจ้าของฉายา "พระกาฬหน้าขรึม" ผู้นี้ เป็นหนึ่งในยอดมวยสองแบบที่มีคะแนนนิยมต่อเนื่องมายาวนานตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา !!.

ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่ชกมวยไทยในนาม
"วีระพล สหพรหม" เขาก็โดดเด่นเป็นแชมเปี้ยน 3 รุ่นของเวทีราชดำเนิน

เป็นคนแรกที่ทำให้
"แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์" (แซมซั่น ดัชบอยยิมส์) รู้ซึ้งว่าการถูกน็อกเอ๊าต์มันเป็นยังไง เช่นเดียวกับที่ตัววีระพลเองก็ถูกแสนเมืองน้อย "เอาคืน" ในลักษณะเดียวกัน..ผลัดกันน็อกคนละครั้ง เมื่อสลัดแองเกิ้ลหันไปสวมรองเท้าชกสากลในการจัดการของ "เสี่ยฮุย" สุชาติ พิสิฐวุฒินันท์ แห่ง "นครหลวงโปรโมชั่น" อันมี มนต์สวรรค์ แหลมฟ้าผ่า เป็นเทรนเนอร์ วีระพล-คนหน้าขรึมก็พัฒนาฝีมือไปได้อย่างราบรื่นน่าชื่นชม

วีระพลขึ้นชกครั้งแรกก็ได้ชิงแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต
WBC International ที่ว่างอยู่เลยกับ โจเอล จูนิโอ จากฟิลิปปินส์ ซึ่งเขาก็ชิงแชมป์ได้สำเร็จง่ายดายด้วยการชนะน็อคเพียงแค่ยก 3 เท่านั้น และหลังจากป้องกันได้ 1 ไฟต์กับอุ่นเครื่อง 1 ไฟต์ วีระพลก็ขึ้นชิงแชมป์แบนตั้มเวต WBA กับ ดาวรุ่ง ช.ศิริวัฒน์ แชมป์โลกชาวไทยด้วยกันที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อ 17 กันยายน 2538 และเขาก็สามารถเอาชนะคะแนนดาวรุ่งในแบบไม่เป็นเอกฉันท์กลายเป็นแชมป์โลกสถาบันหลักที่มีสถิติชกเพียง 4 ครั้ง ซึ่งน้อยที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 รองจาก แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ เพียงคนดียวเท่านั้น (แสนศักดิ์ได้แชมป์โลกในการชกอาชีพไฟต์ที่ 3)

แต่แค่ป้องกันครั้งแรกวีระพลก็เสียตำแหน่งไปง่ายดายโดยถูกหมัดบวกขอผู้ท้าชิงชาวกาน่า นานา ยอว์ คอนาดู ร่วงลงไปกับพื้นเวทีในยกที่
2 แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ทำให้วีระพลรีบลุกขึ้นมาเร็วจึงทำให้ฟื้นไม่ทันและเป็นเหตุให้พ่ายน็อคไปในยกที่ 2 นี้เอง

แต่วีระพลก็กลับชกทำฟอร์มอีก
10 กว่าครั้งโดยใช้เวลาเพาะบารมีอยู่ร่วม 3 ปี ก็ได้โอกาสไปชิงแชมป์แบนตั้มเวต WBC กับ โจอิชิโร่ ซึโยชิ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งวีระพลก็ถล่มเอาขวัญใจชาวอาทิตย์อุทัยแพ้น็อคไปในยกที่ 6 กลายเป็นแชมป์โลกอีกครั้งอย่างงดงามเมื่อ 29 ธันวาคม 2541

เขาป้องกันตำแหน่งทั้งในและนอกประเทศเอาไว้ได้ถึง
14 ครั้งแล้ว และกำลังทำสถิติป้องกันตำแหน่งมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับฉายาของวีระพลนั้น ได้มาจากบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนเงียบๆ แต่เฉียบคมด้วยฝีมือ รู้หน้าที่ของตัวเอง มีวินัยเคร่งครัด เป็นที่รักและไว้วางใจของผู้เกี่ยวข้องทุกคน ประกอบกับมีผิวกายดำคล้ำ เข้าลักษณะ
"พระกาฬ"อย่างลงตัว (กาฬหมายถึง "ดำ")

จึงมีฉายาว่า
"พระกาฬหน้าขรึม" ตลอดมา !!

แต่มักถูกเรียกเพี้ยนเป็น
"พยัคฆ์หน้าขรึม" เทรนด์เดียวกับ "พยัคฆ์หน้าหยก" ฉายาของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ไปนั่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม?

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น วัยกว่า
30 ปี ได้รับยกย่องเป็น "นักกีฬาอาชีพดีเด่น" ของการกีฬาแห่งประเทศไทยถึง 4 สมัยติดต่อกัน

ต่อมาวีระพลพลาดท่าเสียแชมป์แบนตั้มเวต
WBC ให้กับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น โฮซูมิ ฮาเซกาว่า ด้วยการแพ้คะแนนเอกฉันท์ 115-112, 115-113, และ 116-113 ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 เม.. 48 รวมป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ทั้งสิ้น 14 ครั้ง อย่างไรก็ตามเขายังกลับมาอุ่นเครื่องต่อไปเพื่อหวังจะชิงตำแหน่งคืนในอนาคตข้างหน้า

และวีระพลก็ได้คิวชิงแชมป์โลกแก้มือกับฮาเซกาว่าวันที่ 25 มีนาคม 2549 ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น แต่พลาดท่าพ่ายน็อคไปในยกที่ 9 ทั้งๆที่เริ่มแรงขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว

อย่างไรก็ตามวีระพลยังไม่เลิกมวยง่ายๆ เขากลับมาอุ่นเครื่องอีก 7 ไฟต์ชนะรวด ก่อนที่จะได้ขึ้นชิงแชมป์แบนตั้มเวต
ABCO ที่ว่างอยู่ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2550 และเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน ริชาร์ด ลาเอโน่ คู่ชิงจากฟิลิปปินส์ไปได้สำเร็จ คว้าแชมป์ไปครอง

ล่าสุดวีระพลชกตัดเชือกเพื่อที่จะกลับไปชิงแชมป์โลก
WBC อีกครั้ง กับนักชกแอฟริกาใต้นามว่า วูซี่ มาลิงก้า แต่ก็สู้ความหนุ่มสดของมวยตัวดำๆไม้ได ถูกถล่มพ่ายน็อคไปในยกที่ 4 จนต้องประกาศแขวนนวมและหันไปเป็นเทรนเนอร์ของค่ายต่อไป

(เรียบเรียงเพิ่มเติมจากเรื่อง "ฉายา "พระกาฬหน้าขรึม" วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น" คอลัมน์ ฉายาชาวยุทธ์ โดย สว่าง สวางควัฒน์ นสพ.ข่าวสด ฉบับที่ 5158 วันที่ 12 มกราคม .. 2548 ปีที่ 14, ต้นฉบับภาพประกอบจากนิตยสารโลกกำปั้น)